พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ เชลซี
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 22.00 น. อาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 2 (ช่อง 602)
สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ ชนะ เชลซี 2-1
สภาพความพร้อม ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่า ผลงานตกลงไปเยอะในช่วงหลัง จนทำให้จากที่เคยรั้งอยู่อันดับที่ 3 มายาวนาน ต้องตกลงมาอยู่อันดับที่ 7 โดยฟอร์มการเล่น 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการนั้น พวกเขาชนะได้แค่ 2 เกม เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 4 นัด อย่างไรก็ดีพวกเขาไม่แพ้ในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการชนะ 1 เสมอ 2 ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสำคัญมากๆ
เพราะนั่นทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 65 แต้มจาก 37 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง ยังคงมีลุ้นที่จะติดท็อป 5 จนถึงเกมนัดสุดท้าย แถมยังได้เจอทีมที่แย่งพื้นที่ตรงนี้ด้วยกันเองอย่าง เชลซี อีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขของ ฟอเรสต์ ก็คือต้องชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้น และต้องไปลุ้นให้ นิวคาสเซิ่ล หรือ แอสตัน วิลล่า ทีมใดทีมหนึ่งไม่ชนะในเกมสุดท้าย
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฟอเรสต์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ เอริก โมเรยร่า และ ไทโว่ อโวนิยี่ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ฟอเรสต์ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คริส วู้ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไป โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ส่วนแดนกลางจะมี อิบราฮิม ซองกาเร่ คุมเกมร่วมกับ เอเลียต แอนเดอร์สัน
สรุปข่าว
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พบ เชลซี
สนาม : ซิตี้ กราวด์
เวลา : 22.00 น. อาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 2 (ช่อง 602)
สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ ชนะ เชลซี 2-1
สภาพความพร้อม ฟอเรสต์
ทีมเจ้าป่า ผลงานตกลงไปเยอะในช่วงหลัง จนทำให้จากที่เคยรั้งอยู่อันดับที่ 3 มายาวนาน ต้องตกลงมาอยู่อันดับที่ 7 โดยฟอร์มการเล่น 8 นัดหลังสุดรวมทุกรายการนั้น พวกเขาชนะได้แค่ 2 เกม เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 4 นัด อย่างไรก็ดีพวกเขาไม่แพ้ในลีกมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการชนะ 1 เสมอ 2 ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสำคัญมากๆ
เพราะนั่นทำให้พวกเขาเก็บเพิ่มเป็น 65 แต้มจาก 37 นัด รั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง ยังคงมีลุ้นที่จะติดท็อป 5 จนถึงเกมนัดสุดท้าย แถมยังได้เจอทีมที่แย่งพื้นที่ตรงนี้ด้วยกันเองอย่าง เชลซี อีกด้วย ซึ่งเงื่อนไขของ ฟอเรสต์ ก็คือต้องชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้น และต้องไปลุ้นให้ นิวคาสเซิ่ล หรือ แอสตัน วิลล่า ทีมใดทีมหนึ่งไม่ชนะในเกมสุดท้าย
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ฟอเรสต์ มีปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยเกมนี้จะไม่มีแค่ เอริก โมเรยร่า และ ไทโว่ อโวนิยี่ เท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตสมบูรณ์ทั้งหมด ทำให้เกมนี้ ฟอเรสต์ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบการเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจะใช้ คริส วู้ด ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไป โดยมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ส่วนแดนกลางจะมี อิบราฮิม ซองกาเร่ คุมเกมร่วมกับ เอเลียต แอนเดอร์สัน
สภาพความพร้อม เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถือว่ามีผลงานที่ยอดเยี่ยมเลยในช่วงที่ผ่านมา โดยพวกเขาแพ้ไปแค่เกมเดียวจากการลงเล่น 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ และชนะไปได้ถึง 6 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเฉือนชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนนจากการลงเล่น 37 เกม
ซึ่งนั่นทำให้พวกเขายังรักษาอันดับที่ 5 ของตัวเองเอาไว้ได้ โดยมีแต้มเท่ากันกับอันดับ 6 อย่าง แอสตัน วิลล่า แต่ผลต่างประตูได้เสียของ เชลซี ยังเหนือกว่าพอสมควร แต่กระนั้นเกมนี้พวกเขาจะยังประมาทไม่ได้ ถ้าจะให้ชัวร์ต้องชนะ ฟอเรสต์ เพื่อการันตีท็อป 5 ไปเลยโดยที่ไม่ต้องไปสนผลคู่อื่นๆ แต่ถ้าทำได้แค่เสมอ ก็ต้องไปลุ้นให้ วิลล่า ไม่ชนะในเกมสุดท้าย
ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เชลซี มีนักเตะบาดเจ็บอยู่พอสมควร โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, มาร์ก กิว, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ อารอน อันเซลมิโน่ ที่ยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ติดโทษแบน ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบ 4-2-3-1 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ ไทริค จอร์จ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์ และ เปโดร เนโต้ คอยปั้นเกม ขณะที่แดนกลางจะใช้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คุมเกมร่วมกับ มอยเซส ไกเซโด้
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอเรสต์ (4-2-3-1) : แม็ตซ์ เซลส์ : โอล่า ไอน่า, นิโกล่า มิเลนโควิช, มูริลโล่, เนโก้ วิลเลี่ยมส์ : อิบราฮิม ซองกาเร่, เอลเลียต แอนเดอร์สัน : แอนโธนี่ อีแลงก้า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย : คริส วู้ด
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : รีซ เจมส์, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า : เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้ : โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ : ไทริค จอร์จ
ความน่าจะเป็น : ฟอเรสต์ ไม่มีทางเลือก ต้องชนะในเกมนี้สถานเดียวเท่านั้น หากยังหวังที่จะมีลุ้นติดท็อป 5 และคว้าโควต้าไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีหน้าได้ แถมชนะอย่างเดียวยังไม่พอ ยังต้องลุ้นให้ นิวคาสเซิ่ล หรือ แอสตัน วิลล่า ทีมใดทีมหนึ่งไม่ชนะในเกมวันนี้ด้วย นั่นทำให้พวกเขาจะทุ่มหมดหน้าตัก เพราะถ้าไม่ชนะก็ไม่มีความหมาย ขณะที่ เชลซี จะเล่นเพื่อเสมอก็เสี่ยงเช่นกัน เพราะถ้าพวกเขาเสมอ แต่ นิวคาสเซิ่ล มีแต้ม และ วิลล่า ชนะ พวกเขาก็จะเป็นฝ่ายที่หลุดจากท็อป 5 เช่นกัน ทำให้เกมนี้ทั้งสองทีมจะเปิดเกมสู้กันอย่างบ้าคลั่งแน่นอน ผลสามารถออกได้ทั้งสามหน้า แต่ถ้าจะมีผู้ชนะในเกมนี้ ยังคิดว่า ฟอเรสต์ ดูมีลุ้นมากกว่าเล็กน้อยเพราะได้เล่นในบ้าน
สกอร์ที่คาด : ฟอเรสต์ ชนะ เชลซี 2-1
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : Premier League
