
อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือของ ลิเวอร์พูล ชื่นชมลูกทีมที่ไม่ยอมแพ้ ไล่ตามตีเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับยอมรับด้วยว่าช่วงซัมเมอร์นี้ ทีมหงส์แดงจะมีการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งให้กับทีม
ลิเวอร์พูล มีคิวลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยการรับมือ คริสตัล พาเลซ แชมป์ เอฟเอ คัพ ทีมล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจบเกมนี้จะมีพิธีชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการด้วย หลังคว้าแชมป์ไปครองได้ตั้งแต่เกมนัดที่ 34 ที่เปิดบ้านถล่ม สเปอร์ส 5-1 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ครึ่งแรกเล่นมาได้ 9 นาที พาเลซ กลับมาบุกมาขึ้นนำก่อน จากการยิงของ อิสไมล่า ซาร์ และเป็นเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้นใน 45 นาทีแรก ขณะที่ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าเดิม เนื่องจาก ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค โดนใบแดงในนาทีที่ 68 หลังกองกลางเนเธอร์แลนด์ที่ยืนเป็นตัวสุดท้ายจับบอลไม่ดี ทำให้ ไดจิ คามาดะ กองกลางของ พาเลซ ฉกบอลไปได้ และกำลังจะหลุดเดี่ยวจากบริเวณครึ่งสนาม ทำให้ กราเฟ่นแบร์ค ตัดฟาวล์ทันที ส่งผลให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป
สรุปข่าว
อาร์เน่อ ชล็อต กุนซือของ ลิเวอร์พูล ชื่นชมลูกทีมที่ไม่ยอมแพ้ ไล่ตามตีเสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับยอมรับด้วยว่าช่วงซัมเมอร์นี้ ทีมหงส์แดงจะมีการเสริมทัพครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งให้กับทีม
ลิเวอร์พูล มีคิวลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาล ด้วยการรับมือ คริสตัล พาเลซ แชมป์ เอฟเอ คัพ ทีมล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจบเกมนี้จะมีพิธีชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการด้วย หลังคว้าแชมป์ไปครองได้ตั้งแต่เกมนัดที่ 34 ที่เปิดบ้านถล่ม สเปอร์ส 5-1 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ครึ่งแรกเล่นมาได้ 9 นาที พาเลซ กลับมาบุกมาขึ้นนำก่อน จากการยิงของ อิสไมล่า ซาร์ และเป็นเพียงประตูเดียวที่เกิดขึ้นใน 45 นาทีแรก ขณะที่ในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากกว่าเดิม เนื่องจาก ไรอัน กราเฟ่นแบร์ค โดนใบแดงในนาทีที่ 68 หลังกองกลางเนเธอร์แลนด์ที่ยืนเป็นตัวสุดท้ายจับบอลไม่ดี ทำให้ ไดจิ คามาดะ กองกลางของ พาเลซ ฉกบอลไปได้ และกำลังจะหลุดเดี่ยวจากบริเวณครึ่งสนาม ทำให้ กราเฟ่นแบร์ค ตัดฟาวล์ทันที ส่งผลให้ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามไป
แต่ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 แม้ว่าจะเหลือแค่ 10 แต่ ลิเวอร์พูล ก็พยายามบุกหนัก ก่อนจะตีเสมอได้สำเร็จจากการยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้จบเกม ลิเวอร์พูล เสมอกับ คริสตัล พาเลซ ไป 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน
หลังจบเกม ชล็อต กล่าวชมลูกทีมของตัวเองว่า ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าจะเหลือแค่ 10 คนก็ตาม โดยกล่าวว่า "ไม่ว่าพวกเขาจะเล่นที่แอนฟิลด์หรือออกไปเยือน พวกเขาทำได้ทุกอย่างเสมอ และในวันนี้ก็เป็นอีกครั้ง เมื่อเราเหลือแค่ 10 คนและสกอร์ตามหลัง ทีมทั่วๆ ไปก็อาจจะแพ้ในเกมแบบนั้น แต่ทีมนี้ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกันและทำงานหนักขึ้น ก่อนจะยิงประตูได้ ผมคิดว่าเราสมควรได้รับผลการแข่งขันนี้แล้ว"
"มันพิเศษมากๆ (การชูถ้วยแชมป์) เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อนเราได้แชมป์ไปแล้ว และมาในวันนี้เราก็ได้สัมผัสประสบการณ์นี้อีกครั้ง ถ้าเป็นในประเทศอื่นๆ ก็คงจะได้เจอกับเรื่องแบบนี้แค่ครั้งเดียว นอกจากนี้การที่เราได้รอคอยโอกาสชูถ้วยต่อหน้าแฟนๆ มานานถึง 35 ปีมันพิเศษมากๆ ผมรู้สึกถึงมันได้เลยในวันนี้ และมันเป็นความรู้สึกแบบเดียวกันในวันที่เราชนะ ท็อตแน่ม ดังนั้นผมจึงไม่อยากขออะไรมากกว่านี้อีกแล้วสำหรับการได้เจอกับประสบการณ์แบบนี้"
"เรามีช่วงซัมเมอร์ที่วุ่นวายอยู่แล้ว เพราะเราต่อสัญญากับ โม (ซาลาห์) และ เฟอร์จิล (ฟาน ไดค์) และเรากำลังพยายามเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมด้วย เราต้องการทำแบบนั้นอยู่ตลอดหากว่าเรารู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะทำ (การเสริมทัพ) แต่ในฤดูกาลที่แล้วเราตั้งใจที่จะรักษาทีมชุดนี้เอาไว้ อย่างไรก็ตาม เรายังต้องการมากกว่านี้ เพราะคู่แข่งของเราก็คงไม่อยู่เฉยเช่นกัน ผมคิดว่าหากคุณยังต้องการแข่งขันต่อไป คุณก็ต้องพยายามทำบางสิ่งด้วยเช่นกัน แม้ว่าตอนนี้เรายังมีความสุขกับทีมที่เรามีอยู่ก็ตาม"
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล ตกลงคว้าตัว เจเรมี่ ฟริมปง แบ็กขวา ทีมชาติเนเธอร์แลนด์มาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้แล้ว ด้วยค่าฉีกสัญญา 35 ล้านยูโร และกำลังจะได้ตัว ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเยอรมนีจาก เลเวอร์คูเซ่น ด้วยเช่นกัน หลังมีรายงานว่านักเตะได้ตอบตกลงย้ายมาร่วมทีมหงส์แดงแล้ว รวมถึง มิลอช เคอร์เคช แบ็กซ้ายอนาคตไกลจาก บอร์นมัธ ด้วย ที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงย้ายทีมแล้วเช่นกัน
ที่มาข้อมูล : Sky Sports
ที่มารูปภาพ : AFP