ประวัติส่วนตัว อเล็กซิส ซานเชซ : “เอล นีโญ มาราวียา” จากเมืองเหมืองทอง สู่ตำนานลูกหนังแห่งชิลี

ประวัติส่วนตัว อเล็กซิส ซานเชซ : “เอล นีโญ มาราวียา” จากเมืองเหมืองทอง สู่ตำนานลูกหนังแห่งชิลี

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกไซส์มินิชาวชิลี จัดว่าเป็นแข้งที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเวทียุโรป ด้วยฝีไม้ลายมือที่จัดจ้านทำให้ เจ้าตัว ได้รับความสนใจจากทีมต่างๆมากมาย รวมทั้งยังเคยย้ายไปเล่นในลีกชั้นนำของยุโรปมาแล้วทั้งหมด 4 ลีก ไล่ตั้งแต่ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลา ลีกา สเปน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส 

แต่ว่ากาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปทำให้ อเล็กซิส ซานเชซ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากนักกีฬาชื่อดังหลายๆคน ฟอร์มการเล่นและชื่อเสียงค่อยๆลดลงไปตามสภาพร่างกายที่โรยราและวัยที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ โดยปัจจุบัน เจ้าตัว อายุใกล้ครบ 37 ปีเต็ม(ขาดอีก 2 เดือน) และลงเล่นอยู่ในสเปนกับ เซบีย่า 

อเล็กซิส ซานเชซ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้งจากผลงานเกมล่าสุด เจ้าตัว โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมช่วย เซบีย่า เปิดสนาม รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ไล่ต้อนเอาชนะอดีตต้นสังกัดเก่า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา แบบขาดลอย 4-1 และนับเป็นการเอาชนะ บาร์ซ่า ในลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 หรือว่าเมื่อ 10 ปีที่้แล้ว

อเล็กซิส อเลฮานโดร ซานเชซ ซานเชซ (Alexis Alejandro Sánchez Sánchez) เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1988 ที่เมืองโตโกปียา (Tocopilla) ประเทศชิลี เมืองชายฝั่งเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านเหมืองทองแดง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เต็มไปด้วยความยากลำบากทางเศรษฐกิจ

ชีวิตในวัยเด็กของอเล็กซิสไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม่ของเขาต้องทำงานหนักหลายอาชีพเพื่อเลี้ยงลูก ๆ ส่วนพ่อแท้ ๆ ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ยังเล็ก ความลำบากเหล่านั้นกลายเป็นแรงผลักดันให้เด็กชายร่างเล็กที่ชอบเล่นฟุตบอลเท้าเปล่าตามถนนฝุ่น กลายมาเป็นนักเตะที่คนทั้งโลกต้องพูดถึงในเวลาต่อมา

เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นก่อนจะเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสร โคเบรโลอา (Cobreloa) ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของชิลีในเวลานั้น ที่นี่เองที่พรสวรรค์ของเขาเริ่มฉายแวว และเมื่ออายุเพียง 16 ปี เขาก็ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ถือเป็นหนึ่งในนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร




สรุปข่าว

จากเด็กชายยากจนในเมืองเหมืองทองแดงของชิลี สู่นักฟุตบอลระดับโลกที่ฝากผลงานไว้กับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลนา, อาร์เซน่อล และอินเตอร์ มิลาน อเล็กซิส ซานเชซ คือตัวอย่างของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ชื่อเสียงของเขาอาจไม่เปล่งประกายเท่าเดิมตามกาลเวลา แต่หัวใจนักสู้และแรงศรัทธาในเกมฟุตบอลยังคงเหมือนวันแรกที่เริ่มเตะบอลเท้าเปล่าบนถนนฝุ่นในโตโกปียา ทำให้ “เอล นีโญ มาราวียา” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจของวงการลูกหนังชิลีจนถึงทุกวันนี้

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน อเล็กซิส ซานเชซ แนวรุกไซส์มินิชาวชิลี จัดว่าเป็นแข้งที่มีชื่อเสียงระดับแนวหน้าคนหนึ่งของเวทียุโรป ด้วยฝีไม้ลายมือที่จัดจ้านทำให้ เจ้าตัว ได้รับความสนใจจากทีมต่างๆมากมาย รวมทั้งยังเคยย้ายไปเล่นในลีกชั้นนำของยุโรปมาแล้วทั้งหมด 4 ลีก ไล่ตั้งแต่ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลา ลีกา สเปน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส 

แต่ว่ากาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปทำให้ อเล็กซิส ซานเชซ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากนักกีฬาชื่อดังหลายๆคน ฟอร์มการเล่นและชื่อเสียงค่อยๆลดลงไปตามสภาพร่างกายที่โรยราและวัยที่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ โดยปัจจุบัน เจ้าตัว อายุใกล้ครบ 37 ปีเต็ม(ขาดอีก 2 เดือน) และลงเล่นอยู่ในสเปนกับ เซบีย่า 

อเล็กซิส ซานเชซ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้งจากผลงานเกมล่าสุด เจ้าตัว โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมช่วย เซบีย่า เปิดสนาม รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ไล่ต้อนเอาชนะอดีตต้นสังกัดเก่า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา แบบขาดลอย 4-1 และนับเป็นการเอาชนะ บาร์ซ่า ในลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 หรือว่าเมื่อ 10 ปีที่้แล้ว

อเล็กซิส อเลฮานโดร ซานเชซ ซานเชซ (Alexis Alejandro Sánchez Sánchez) เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1988 ที่เมืองโตโกปียา (Tocopilla) ประเทศชิลี เมืองชายฝั่งเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านเหมืองทองแดง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เต็มไปด้วยความยากลำบากทางเศรษฐกิจ

ชีวิตในวัยเด็กของอเล็กซิสไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม่ของเขาต้องทำงานหนักหลายอาชีพเพื่อเลี้ยงลูก ๆ ส่วนพ่อแท้ ๆ ทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่ยังเล็ก ความลำบากเหล่านั้นกลายเป็นแรงผลักดันให้เด็กชายร่างเล็กที่ชอบเล่นฟุตบอลเท้าเปล่าตามถนนฝุ่น กลายมาเป็นนักเตะที่คนทั้งโลกต้องพูดถึงในเวลาต่อมา

เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นก่อนจะเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสร โคเบรโลอา (Cobreloa) ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของชิลีในเวลานั้น ที่นี่เองที่พรสวรรค์ของเขาเริ่มฉายแวว และเมื่ออายุเพียง 16 ปี เขาก็ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ถือเป็นหนึ่งในนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร




ปี 2006 สโมสร อูดิเนเซ่ จากอิตาลีมองเห็นศักยภาพของเด็กหนุ่มชาวชิลี และตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีม แต่เพื่อให้ได้ประสบการณ์ลงเล่นจริง เขาถูกส่งไปยืมตัวกับสโมสรโคโล-โคโล (Colo-Colo) ในชิลี และริเวอร์เพลต (River Plate) ในอาร์เจนตินา ซึ่งทั้งสองที่กลายเป็นเวทีบ่มเพาะสำคัญ ก่อนที่เขาจะกลับมาแจ้งเกิดเต็มตัวในกัลโช่ เซเรีย อา

ในปี 2011 อเล็กซิสก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งสเปนคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวกว่า 26 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าสูงมากในยุคนั้น เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมยุคทองภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้เล่นเคียงข้าง ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสตา และ ชาบี เอร์นานเดซ

ถึงแม้จะไม่ได้เป็นดาวเด่นที่สุด แต่เขาก็มีส่วนสำคัญในเกมรุกของทีม โดยเฉพาะความขยันไล่บอลและการเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัว ช่วยให้บาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และสโมสรโลกได้ในช่วงเวลานั้น

2014 อเล็กซิสย้ายสู่พรีเมียร์ลีกกับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัวราว 35 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นการย้ายทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา เขาเป็นหัวใจของทีมภายใต้การคุมของ อาร์แซน เวนเกอร์ และกลายเป็นขวัญใจแฟนปืนโตอย่างรวดเร็ว

ในฤดูกาล 2016/17 เขายิงไปถึง 30 ประตูจากทุกรายการ พาอาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่อันตรายที่สุดในพรีเมียร์ลีก

ช่วงต้นปี 2018 เขาย้ายข้ามฟากไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมค่าเหนื่อยมหาศาล แต่ชีวิตที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดกลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด การเล่นไม่เข้ากับระบบของทีมทำให้เขาไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ ภาพจำของแฟนบอลคือวิดีโอเปิดตัวพร้อมเสียงเปียโนที่กลายเป็นมีมโด่งดัง

หลังจากนั้น เขาย้ายไป อินเตอร์ มิลาน และกลับมามีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในฤดูกาล 2020/21 ก่อนจะหวนกลับมาเล่นให้ทีมเก่าอย่าง มาร์กเซย และล่าสุดกลับสู่ อินเตอร์ มิลาน อีกครั้งในบทบาทรุ่นพี่มากประสบการณ์

อเล็กซิส ซานเชซ เป็นนักเตะที่ถูกนิยามว่า “เล่นเพื่อทีมมากกว่าเพื่อชื่อเสียง” เขามีจุดเด่นคือความเร็ว, การเปลี่ยนทิศทางที่เฉียบคม, และการเล่นด้วยหัวใจเต็มร้อยทุกนาทีในสนาม แม้ร่างกายจะไม่ได้สูงใหญ่ แต่กลับมีความแข็งแกร่งและบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นทั้งเพลย์เมกเกอร์ กองหน้า และตัวริมเส้นได้ในคนเดียว ด้วยเทคนิคการลากเลื้อยที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกจดจำคือ “สปิริตนักสู้” ที่ไม่เคยยอมแพ้แม้ในเกมที่ทีมเป็นรอง เขาวิ่งเพรสซิ่งทุกจังหวะ ไล่บอลอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จนได้รับฉายาว่า “El Niño Maravilla” หรือ “เด็กมหัศจรรย์แห่งชิลี”


ผลงานและความสำเร็จ

แชมป์ลาลีกา (บาร์เซโลนา)

แชมป์โกปา เดล เรย์ (บาร์เซโลนา)

แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ (บาร์เซโลนา)

แชมป์เอฟเอ คัพ (อาร์เซน่อล) 2 สมัย

แชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์ (อาร์เซน่อล)

แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา (อินเตอร์ มิลาน)

แชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลีย

แชมป์โคปา อเมริกา 2 สมัย (2015, 2016)

ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติชิลี

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เซน่อล (2015, 2017)

ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก (2015)

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของชิลีหลายสมัย


เรื่องน่ารู้เพิ่มเติม

- อเล็กซิสชอบช่วยเหลือเด็กยากจนในบ้านเกิด เขาเคยบริจาคเงินเพื่อปรับปรุงสนามฟุตบอลในโตโกปียา

- เขามีความหลงใหลในรถยนต์และสุนัข โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์ชื่อ “อาตอม” และ “ฮัมเบอร์” ที่มักปรากฏตัวในโซเชียลของเขา

- ช่วงอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขายอมรับในภายหลังว่า “อยากยกเลิกสัญญาในวันแรกที่ย้ายไปถึง” เพราะไม่รู้สึกว่าที่นั่นเหมาะกับตน

- เขาเป็นนักฟุตบอลชาวชิลีคนแรกที่ยิงประตูได้ในศึกเอล กลาซิโก้ (ระหว่าง บาร์เซโลนา - เรอัล มาดริด)

- อเล็กซิสเป็นหนึ่งในนักเตะชาวอเมริกาใต้ไม่กี่คนที่เคยเล่นใน 4 ลีกใหญ่ของยุโรป: สเปน, อังกฤษ, อิตาลี และฝรั่งเศส


FAQ: คำถามที่หลายคนมักสงสัยเกี่ยวกับ Alexis Sánchez

1. ทำไมอเล็กซิสถึงถูกเรียกว่า “El Niño Maravilla”?

เพราะเขาเริ่มสร้างชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยและมีฟอร์มการเล่นที่เกินวัย แฟนบอลชาวชิลีจึงตั้งฉายานี้ให้ ซึ่งแปลว่า “เด็กมหัศจรรย์”

2. เขายังเล่นให้ทีมชาติชิลีอยู่หรือไม่?

ใช่ เขายังคงมีบทบาทในทีมชาติ แม้อายุเข้าเลขสามปลาย ๆ แล้ว เขายังเป็นผู้นำในสนามและที่ปรึกษารุ่นน้องในทีม

3. ช่วงเวลาไหนถือว่าดีที่สุดในอาชีพของอเล็กซิส?

ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าช่วงที่เล่นให้ “อาร์เซน่อล” ระหว่างปี 2014–2018 คือจุดพีกที่สุด ทั้งในแง่สถิติและอิทธิพลในสนาม

4. เขาเคยมีปัญหากับโค้ชหรือไม่?

บางช่วงมีข่าวความไม่ลงรอย โดยเฉพาะสมัยอยู่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความคาดหวังและความกดดันมากกว่าความขัดแย้งส่วนตัว

5. หลังแขวนสตั๊ด เขามีแผนจะทำอะไรต่อ?

อเล็กซิสเคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากช่วยพัฒนาเยาวชนในชิลี และอาจทำงานด้านโค้ชหรือผู้จัดการทีมในอนาคต เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่

ที่มาข้อมูล : wikipedia

ที่มารูปภาพ : YT : Sevilla FC