
จากผลงานอันยอดเยี่ยมของสโมสรเอสวี เอลเวอร์สเบิร์ก ที่กำลังติดลมบนกับการขึ้นนำจ่าฝูงของตารางบุนเดสลีกา2 ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลมา 8 นัดแรก นับเป็นเรื่องที่แฟนฟุตบอลไทยต่างยินดีและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะสโมสรแห่งนี้คือต้นสังกัดของ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กจอมบุกทีมชาติไทย ที่กำลังวาดลวดลายในเวทีลีกรองของเยอรมัน แถมเกมล่าสุดก่อนเบรกทีมชาติ (5 ต.ค. 68) เจ้าตัวยังตอบแทนการได้ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกด้วยการจัด 1 แอสซิสต์ เป็นประตูเบิกร่องให้ทีมได้อีกด้วย
นี่คือนักเตะทีมชาติไทย คนที่ 2 ที่ได้โอกาสไปค้าแข้งในแผ่นดินเยอรมัน ต่อจาก "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ที่เคยลงเล่นในศึกบุนเดสลีกา ให้กับ แฮร์ธา บีเอสซี เบอร์ลิน เมื่อปี 1979-1981 และ เอฟซี ซาร์บรูคเคน ในปี 1982-1984
เราจึงขอโอกาสนี้พาทุกท่านไปติดตามเรื่องราวเส้นทางลูกหนังของ นิโคลัส มิคเกลสัน ว่ากว่าที่จะถูกยอมรับในเวทียุโรปและมีทุกวันนี้ได้ เขาต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง
- ประวัติ นิโคลัส มิคเกลสัน
นิโคลัส เก่งเขตกิจ มิคเกลสัน หรือที่แฟนฟุตบอลชาวไทยเรียกชื่อเล่นของเขากันอย่างคุ้นปากว่า "ลูกโซ่" เกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ค.ศ. 1999 ณ เมืองสเกียน ประเทศนอร์เวย์
เขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่คุณพ่อเป็นชาวนอร์เวย์ และมีสายเลือดไทยมาจากคุณแม่ที่เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก และด้วยความที่ครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตในประเทศนอร์เวย์ ก่อนจะมีโซ่ทองคล้องใจที่ถูกตั้งชื่อเล่นแบบไทยๆว่า "ลูกโซ่"
ในวัยเด็ก มิคเกลสัน หลงรักกับการวิ่งไล่ตามเตะลูกฟุตบอล และมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่สนุกกับสิ่งนี้อยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง จนกระทั่งได้โอกาสเข้าสู่ระบบอคาเดมีของสโมสร Ottestad IL ทีมท้องถิ่นในประเทศนอร์เวย์ เพื่อเริ่มบ่มเพาะฝีเท้าของตัวเอง
สรุปข่าว
จากผลงานอันยอดเยี่ยมของสโมสรเอสวี เอลเวอร์สเบิร์ก ที่กำลังติดลมบนกับการขึ้นนำจ่าฝูงของตารางบุนเดสลีกา2 ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลมา 8 นัดแรก นับเป็นเรื่องที่แฟนฟุตบอลไทยต่างยินดีและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เพราะสโมสรแห่งนี้คือต้นสังกัดของ นิโคลัส มิคเกลสัน แบ็กจอมบุกทีมชาติไทย ที่กำลังวาดลวดลายในเวทีลีกรองของเยอรมัน แถมเกมล่าสุดก่อนเบรกทีมชาติ (5 ต.ค. 68) เจ้าตัวยังตอบแทนการได้ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกด้วยการจัด 1 แอสซิสต์ เป็นประตูเบิกร่องให้ทีมได้อีกด้วย
นี่คือนักเตะทีมชาติไทย คนที่ 2 ที่ได้โอกาสไปค้าแข้งในแผ่นดินเยอรมัน ต่อจาก "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ที่เคยลงเล่นในศึกบุนเดสลีกา ให้กับ แฮร์ธา บีเอสซี เบอร์ลิน เมื่อปี 1979-1981 และ เอฟซี ซาร์บรูคเคน ในปี 1982-1984
เราจึงขอโอกาสนี้พาทุกท่านไปติดตามเรื่องราวเส้นทางลูกหนังของ นิโคลัส มิคเกลสัน ว่ากว่าที่จะถูกยอมรับในเวทียุโรปและมีทุกวันนี้ได้ เขาต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง
- ประวัติ นิโคลัส มิคเกลสัน
นิโคลัส เก่งเขตกิจ มิคเกลสัน หรือที่แฟนฟุตบอลชาวไทยเรียกชื่อเล่นของเขากันอย่างคุ้นปากว่า "ลูกโซ่" เกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ค.ศ. 1999 ณ เมืองสเกียน ประเทศนอร์เวย์
เขาเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่คุณพ่อเป็นชาวนอร์เวย์ และมีสายเลือดไทยมาจากคุณแม่ที่เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก และด้วยความที่ครอบครัวย้ายถิ่นฐานไปใช้ชีวิตในประเทศนอร์เวย์ ก่อนจะมีโซ่ทองคล้องใจที่ถูกตั้งชื่อเล่นแบบไทยๆว่า "ลูกโซ่"
ในวัยเด็ก มิคเกลสัน หลงรักกับการวิ่งไล่ตามเตะลูกฟุตบอล และมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่สนุกกับสิ่งนี้อยู่ในสวนหลังบ้านของตัวเอง จนกระทั่งได้โอกาสเข้าสู่ระบบอคาเดมีของสโมสร Ottestad IL ทีมท้องถิ่นในประเทศนอร์เวย์ เพื่อเริ่มบ่มเพาะฝีเท้าของตัวเอง
การได้ทำในสิ่งที่รัก มันช่วยส่งให้หนูน้อยรายนี้มีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะเรียนรู้ศาสตร์ฟุตบอลอย่างเต็มที่ และเมื่อใดก็ตามที่เราตั้งใจทำบางสิ่งอย่างมีแพสชัน ผลที่ออกมามันจะดีเสมอ
- นิโคลัส มิคเกลสัน เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรก
ในวัย 13 ขวบ ฝีเท้าของ มิคเกลสัน พัฒนาขึ้นมากจนถูกดึงไปร่วมทีมHamkam สโมสรที่กำลังต้องการยกระดับทุกด้านเพื่อก้าวไปเป็นทีมชั้นนำของลีกนอร์เวย์ และนี่คือย่างก้าวสำคัญที่ทำให้เขาได้โอกาสกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
เขาใช้เวลา 2 ปี พิสูจน์ตัวเอง จนได้รับความไว้วางใจให้ขยับขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เต็มตัวในปี 2015 โดยเวลานั้นต้นสังกัดโลดแล่นอยู่ในลีกระดับดิวิชั่น3 และแม้ว่าในช่วงแรกเจ้าตัวจะได้โอกาสน้อย แต่เขาก็พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกำลังสำคัญของสโมสรในตำแหน่งแบ็ก และได้โอกาสลงสนามให้ทีมไปถึง 55 นัด ด้วยผลงานที่น่าประทับใจและคงเส้นคงวา
ระหว่างนั้นผลงานภาพรวมของเขาก็ดีพอที่จะส่งให้เจ้าตัวติดทีมชาตินอร์เวย์ ในระดับเยาวชนทุกชุด ไล่ตั้งแต่ U16 ไต่ไปจนถึง ชุดU21 ซึ่งประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงคือการได้ร่วมทีมชุดเดียวกับนักเตะที่ก้าวไปสู่ระดับโลกอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ปัจจุบันอยู่กับแมนฯ ซิตี้ และ มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมของอาร์เซน่อล
กว่า 4 ฤดูกาลในทีมชุดใหญ่ ผลงานของเขาดีพอที่จะไปเตะตาแมวมองจากสโมสรสตรอมก็อดเซต (Strømsgodset) ทีมยักษ์ใหญ่บนลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ยื่นข้อเสนอคว้าตัวไปร่วมทีม
การไปอยู่ในทีมที่ใหญ่และแข็งแกร่งกว่าเดิม ทำให้เขาต้องเจอกับหลากหลายอุปสรรค์ โดยเฉพาะการแย่งชิงตำแหน่งในสนามกับเพื่อนร่วมทีมที่หนักหนาสาหัสกว่าเดิมหลายเท่า แต่ถึงกระนั้นตลอดระยะเวลา 2 ฤดูกาล เขาได้โอกาสลงเล่นให้ทีมไป 29 นัด
และถึงเวลาที่เขาต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ในต่างแดน เข้าสู่ปี 2021 มิคเกลสัน ย้ายไปร่วมทีม โอเดนเซ่ สโมสรแกร่งของลีกเดนมาร์ก การย้ายทีมครั้งนี้มันมาพร้อมกับฝีเท้าที่พัฒนาขึ้น บวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมา ทำให้เขาใช้เวลาปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว
- นิโคลัส มิคเกลสัน ติดทีมชาติไทย
ในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ปี 2022 ทีมชาติไทย ชุดU23 ภายใต้การนำทีมของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เวลานั้นมาในฐานะผู้จัดการทีม ได้เห็นโปรไฟล์และความสามารถของหนุ่มลูกครึ่งรายนี้ ก่อนจะเดินหน้าทาบทามให้นักเตะมาเล่นให้กับทัพ "ช้างศึก"
การเจรจาเกิดขึ้นโดยที่ “มาดามแป้ง” วิดีโอคอลไปพูดคุยกับนักเตะอย่างเป็นกันเอง โดยมีคนกลางคือคุณแม่ของเขาและเอเยนต์ส่วนตัวร่วมวงสนทนา สุดท้ายทุกอย่างราบลื่นไปด้วยดี มิคเกลสัน ตัดสินใจเชื่อคุณแม่ด้วยการเลือกมาเล่นให้กับทีมชาติไทย U23 และนี่คือจุดเริ่มต้นกับการติดธงไตรรงค์บนหน้าอกซ้าย
มิคเกลสัน แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของคำว่าคลาสบอลยุโรป ด้วยสไตล์การเล่นดุดัน วิ่งขึ้น-ลงแบบไม่มีหมดตลอด 90 นาที ทุ่มเทสุดตัวทั้งในสนามซ้อมและสนามจริง บวกกับความสามารถเฉพาะตัว ความเร็ว และการผ่านบอลที่แม่นยำ นับเป็นการยกระดับทีมชาติไทยไปโดยปริยาย
โดยในช่วงแรกที่เข้ามา มิคเกลสัน ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับวงการฟุตบอลไทยยอมรับว่าระดับฝีเท้าของนักเตะไทยสูงกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรก พร้อมกับประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ คือการพาทีมชาติไทยไปลุยศึกฟุตบอลโลกให้ได้
ด้วยระดับความสามารถบวกกับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นสไตล์ไทยแลนด์ มิคเกลสัน รู้สึกอุ่นใจทุกครั้งยามที่ได้รับใช้ทีมชาติ และไม่นานเขาก็ได้โอกาสเล่นให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็ตัดสินใจแบบไร้ความลังเล
- นิโคลัส มิคเกลสัน ย้ายไปเล่นในบุนเดสลีกา2 เยอรมัน
เข้าสู่ฤดูกาล 2025-26 มิคเกลสัน ในวัย 25 ย่าง 26 ปี หลังจากไม่ต่อสัญญากับโอเดนเซ่ เขาได้รับข้อเสนอครั้งสำคัญในชีวิต จากสโมสรเอสวี เอลเวอร์สเบิร์ก ทีมในศึกบุนเดสลีกา2 ที่กำลังต้องการยกระดับทีมเพื่อคว้าตั๋วไปลุยลีกสูงสุดของเยอรมัน ติดต่อคว้าตัวไปร่วมทีม ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2025
ในช่วงแรกเขาใช้เวลาปรับตัวและค่อยๆได้รับโอกาสที่ละนิด เริ่มจากการลงไปสัมผัสเกมหลัก 10 นาที ต่อด้วยการลงเล่นที่ขยับเพิ่มเป็นหลักครึ่งชั่วโมง และล่าสุดกับการออกสตาร์ท 11 คนแรก พร้อมพาทีมขึ้นรั้งจ่าฝูงของตารางได้อย่างน่าภาคภูมิใจ เหนือทีมร่วมลีกที่คุ้นหูแฟนบอลไทยอย่าง ชาลเก้ 04 หรือ ฮันโนเวอร์ 96
แม้จะเป็นช่วงต้นของฤดูกาล แต่ทิศทางของสโมสรและตัวมิคเกลสัน ถือเป็นการออกสตาร์ทได้อย่างน่าสนใจ และเชื่อว่าแฟนๆฟุตบอลชาวไทยทุกคนต่างเอาใจช่วยเสมอ เพราะนี่คือหนุ่มลูกครึ่งที่ไม่เคยงอแง ไม่เคยปฏิเสธทีมชาติ และพร้อมที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาช่วยทีมชาติไทยเสมอ
สำหรับแฟนๆที่อยากจะติดตามผลงานของ มิคเกลสัน แบบสดๆตลอด 90 นาที ก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางแอปพลิเคชัน ทรูวิชั่นส์ นาว ที่มีลิขสิทธิ์การลงสนามของ สโมสรเอสวี เอลเวอร์สเบิร์ก ให้ได้ติดตามกันทุกๆสัปดาห์
นี่คือก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย เพราะการมีนักเตะที่ได้ชื่อว่าทีมชาติไทยลงเล่นในแผ่นดินยุโรป ยิ่งจะทำให้ทัพ "ช้างศึก" ได้รับความสนใจและถูกหันกลับมามองอีกครั้งไม่มากก็น้อย เพื่อต่อยอดให้กับเด็กที่มีสายเลือดไทยในอนาคตได้โอกาสไปเฉิดฉายในวงการฟุตบอลยุโรป สร้างรอยยิ้มและความภาคภูมิใจให้กับชาวไทยทุกคน
ที่มาข้อมูล : TNN
ที่มารูปภาพ : FA Thailand
