
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกลาสโกว์ เซลติก หลังพาทีมบุกไปพ่าย ฮาร์ทส์ จ่าฝูงของตารางสกอตติช พรีเมียร์ชิพ ด้วยสกอร์ 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(26 ต.ค. 68) ทำให้ทีมมีช่องว่างตามหลังถึง 8 คะแนน
โดยบอร์ดบริหารของสโมสรตัดสินใจแต่งตั้ง มาร์ติน โอนีล อดีตกุนซือของทีมที่เคยสร้างความสำเร็จระหว่างปี 2000 ถึง 2005 ที่คว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัย, สก็อตติชคัพ 3 สมัย และเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพในปี 2003 กลับมาทำหน้าที่ชั่วคราว ร่วมกับ ฌอน มาโลนีย์ อดีตนักเตะของทีม โดยงานโค้ชล่าสุดของ โอนีล ในวัย 73 ปี คือการคุมทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 2019
ขณะที่ทางด้าน เดอร์มอต เดสมอนด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเซลติก โพสต์โจมตีการตัดสินใจของ ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือของลิเวอร์พูล มีใจความว่า "ตอนที่เราพาเขากลับมาคุมทีมเมื่อ 2 ปีก่อน เราทำด้วยความไว้วางใจอย่างเต็มที่ว่าเขาจะสามารถพาสโมสรไปสู่ยุคใหม่และความสำเร็จที่ยั่งยืน"
"น่าเสียดายที่พฤติกรรมและการสื่อสารของเขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากลับไม่ได้สะท้อนถึงความไว้วางใจนั้น ในช่วงเดือนมิถุนายน ทั้ง ไมเคิล นิโคลสัน(ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และตัวผมได้บอกกับเขาว่าเรายินดีที่จะยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้ เพื่อยืนยันการสนับสนุนและความไว้ใจในตัวเขาอย่างเต็มที่"
สรุปข่าว
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกลาสโกว์ เซลติก หลังพาทีมบุกไปพ่าย ฮาร์ทส์ จ่าฝูงของตารางสกอตติช พรีเมียร์ชิพ ด้วยสกอร์ 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(26 ต.ค. 68) ทำให้ทีมมีช่องว่างตามหลังถึง 8 คะแนน
โดยบอร์ดบริหารของสโมสรตัดสินใจแต่งตั้ง มาร์ติน โอนีล อดีตกุนซือของทีมที่เคยสร้างความสำเร็จระหว่างปี 2000 ถึง 2005 ที่คว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัย, สก็อตติชคัพ 3 สมัย และเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพในปี 2003 กลับมาทำหน้าที่ชั่วคราว ร่วมกับ ฌอน มาโลนีย์ อดีตนักเตะของทีม โดยงานโค้ชล่าสุดของ โอนีล ในวัย 73 ปี คือการคุมทีมน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในปี 2019
ขณะที่ทางด้าน เดอร์มอต เดสมอนด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของเซลติก โพสต์โจมตีการตัดสินใจของ ร็อดเจอร์ส อดีตกุนซือของลิเวอร์พูล มีใจความว่า "ตอนที่เราพาเขากลับมาคุมทีมเมื่อ 2 ปีก่อน เราทำด้วยความไว้วางใจอย่างเต็มที่ว่าเขาจะสามารถพาสโมสรไปสู่ยุคใหม่และความสำเร็จที่ยั่งยืน"
"น่าเสียดายที่พฤติกรรมและการสื่อสารของเขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากลับไม่ได้สะท้อนถึงความไว้วางใจนั้น ในช่วงเดือนมิถุนายน ทั้ง ไมเคิล นิโคลสัน(ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และตัวผมได้บอกกับเขาว่าเรายินดีที่จะยื่นข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่ให้ เพื่อยืนยันการสนับสนุนและความไว้ใจในตัวเขาอย่างเต็มที่"
"ซึ่งเขาก็บอกว่าจะกลับไปพิจารณา แต่สุดท้ายก็กลับลำ และในการแถลงข่าวครั้งต่อมาเขากลับบอกเป็นนัยว่าสโมสรไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาใดใดกับเขา ซึ่งมั่นไม่จริงเลย"
"เราเจอหน้ากันเป็นประจำ รวมถึงเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วและตอนช่วงซัมเมอร์ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการทำทีมทุกเรื่อง ทั้งการย้ายเข้า-ออกของนักเตะก็ผ่านการตัดสินใจของ เบรนแดน คำกล่าวหาที่เกิดขึ้นมันเป็นเท็จทั้งสิ้น เขามีอำนาจตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายในเรื่องของฟุตบอลทั้งหมด รวมถึงการลงทุนในเรื่องของฐานข้อมูลสถิติในการสรรหานักเตะที่เขาคัดเลือกและอนุมัติด้วยตนเอง"
"เมื่อความคิดเห็นของเขาถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ผมพยายามพูดคุยกับเขาตรงๆ เราพบกันที่บ้านของเขาในสกอตแลนด์เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหานี้เป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่เขาก็ไม่สามารถระบุถึงเหตุการณ์ที่สโมสรไปขัดขวางหรือไม่ให้การสนับสนุนเขาได้เลย ความจริงมันไม่ตรงกับที่เขาเล่าออกมา"
"น่าเสียดายที่คำพูดและการกระทำของเขานับตั้งแต่ตอนนั้นมันก่อให้เกิดความแตกแยก บิดเบือนและเห็นแก่ตัว สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ย่ำแย่ในสโมสร"
สำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทีมเซลติก เป็นครั้งที่2 เมื่อปี 2023 และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติดต่อกัน หลังจากที่ครั้งแรกพาทีมเป็นแชมป์ในปี 2017 และ 2018 โดยมีข่าวลือว่าเวลานี้สโมสรกำลังให้ความสนใจที่จะดึงตัว แอนจ์ ปอสเตโคกลู กุนซือคนเก่าที่กำลังว่างงานกลับมาคุมทีมอีกครั้ง
ที่มาข้อมูล : TNT SPORTS
ที่มารูปภาพ : AFP
