
สรุปข่าว
ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) คือ เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในงานค้นคว้าวิจัยมากมาย เนื่องจาก AI ที่ถูกฝึกมาอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวิเคราะห์ปัญหาและประมวลผลลัพธ์ของงานวิจัยได้แม่นยำและรวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่าตัว นอกจากนี้ พวกมันยังสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ AI ได้เข้ามามีส่วนร่วมในงานวิจัยอยู่หลายครั้ง
ที่มาของภาพ Biotechscope
หนึ่งในงานวิจัยที่นิยมใช้ AI เข้าช่วย คือ งานวิจัยค้นหายารักษาโรคชนิดใหม่ โดย AI จะทำหน้าที่ค้นหาโมเลกุลของสารเคมีที่สามารถออกฤทธิ์ตอบสนองต่อการรักษาโรคประเภทนั้น ๆ ได้ด้วยความรวดเร็ว จากเดิมที่นักวิทยาศาสตร์ต้องใช้เวลาค้นหานานหลายปี อาจลดระยะเวลาเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
ถึงกระนั้น เทคโนโลยีทุกชนิดที่มีคุณประโยชน์ เมื่อถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดย่อมทำให้เกิดผลร้ายต่อมวลมนุษย์ได้ เช่นเดียวกับกรณีของ AI ค้นหายารักษาโรคที่พวกมันอาจถูกใช้ในการค้นหาโมเลกุลของ "อาวุธเคมี" เพื่อนำไปใช้ในการสงครามได้ด้วย
การศึกษาล่าสุดจากทีมนักวิจัยของบริษัท Collaborations Pharmaceuticals เผยว่า AI ชื่อว่า MegaSyn ซึ่งใช้ในการค้นหายารักษาโรค สามารถใช้ในการค้นหาโมเลกุลที่มีพิษได้เช่นเดียวกัน จากการประเมินพบว่า AI นี้สามารถค้นหาสารพิษได้มากถึง 40,000 ชนิด ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น !!
ที่มาของภาพ Unsplash
เดิม AI ที่ใช้ในการค้นหาโมเลกุลของยารักษาโรค จะถูกปรับเงื่อนไขให้ค้นหาโมเลกุลที่สามารถออกฤทธิ์ต่อเป้าหมายที่ต้องการได้ดี (เช่น ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท, ออกฤทธิ์ต่อไต หรือออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อ) ในขณะที่มีความเป็นพิษต่ำ ซึ่งในการเปลี่ยน AI ให้ค้นหาสารพิษชีวภาพนั้น เพียงแค่เปลี่ยนเงื่อนไขความเป็นพิษให้เพิ่มสูงขึ้น แต่เงื่อนไขในการออกฤทธิ์ยังทำได้ดีเช่นเดิม เท่านี้ AI ก็จะค้นหาสารพิษที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท, กล้ามเนื้อ, เลือด หรือไตได้ดีและเป็นพิษสูงได้แล้ว
ทีมนักวิจัยยังกล่าวอีกว่า ด้วยอัตราเร็วในการค้นหาสารพิษได้มากถึง 40,000 ชนิด ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจและน่ากลัวยิ่งนัก หากข้อมูลของโมเลกุลเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ผู้ก่อการร้ายอาจจะสามารถอาวุธเคมีที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสาร VX อาวุธเคมีที่คิดค้นโดยมนุษย์ สามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและจัดว่ามีความเป็นพิษสูงที่สุดในปัจจุบัน
ที่มาของภาพ UK Parliament
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ทีมนักวิจัยได้ทำการทดลองนี้ขึ้นมา เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี AI อาจถูกไปใช้ในทางที่ผิดได้ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงที่บริษัทพัฒนายาได้นำ AI ไปใช้ในพัฒนาอาวุธเคมีเสียเอง หรือทางอ้อมจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ AI ถูกควบคุมจากผู้ก่อการร้ายอีกทีหนึ่ง ทั้งหมดนี้จึงทำให้เกิดคำถามว่า บริษัทพัฒนายาเหล่านี้จะมีวิธีการป้องกันและจัดการกับ AI อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Iflscience
- เตรียมประสานเมียนมา แก้ปัญหาสารหนูปนเปื้อนแม่น้ำกกเกินมาตรฐาน
- คนกับ AI มีโอกาสคบกันได้หรือไหม? เซฟโซนทางใจ เมื่อเราพูดคุยกับ AI ได้ทุกเรื่อง
- กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น รับมอบปืน Howa Type 20 ที่ผลิตเองในประเทศ
- “ปลาแม่น้ำกก” กินได้ ตรวจแล้วปลอดภัย สารหนูไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน
- ทรัมป์เล็งขายอาวุธให้ซาอุดีอาระเบียกว่าแสนล้านดอลลาร์
- ใคร ๆ ก็เล่นแต่งภาพ AI ถือเป็นเรื่องน่ากังวล ?
- พบ “ปรอท” ปนเปื้อนในชั้นขนของเพนกวินที่ขั้วโลกใต้ นักวิทยาศาสตร์ชี้มาจากกิจกรรมของมนุษย์ทั้งนั้น
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand