
สรุปข่าว
เป็นเรื่องน่ายินดีที่โลกของเราจะมีวิธีการใหม่ ในการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หนึ่งในตัวการสร้างภาวะโลกร้อนหลังไคลม์เวิร์คส์ (Climeworks) บริษัทด้านสิ่งแวดล้อมสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมาประกาศความสำเร็จ ในการพัฒนาวิธีการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และกักเก็บไว้ใต้ดินอย่างถาวรสำเร็จเป็นเจ้าแรกของโลก
โดยวิธีการที่ ไคลม์เวิร์คส์ ใช้ เป็นการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ด้วยเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บอากาศโดยตรง เริ่มจากตัวเครื่องดักจับอากาศใช้พัดลมขนาดใหญ่ดูดอากาศผ่านตัวกรอง ซึ่งจะใช้ดักจับอนุภาคคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อตัวกรองเต็ม ก็จะปิดรับอากาศ แล้วเพิ่มอุณหภูมิตัวกรองให้สูงขึ้นถึง 100 องศาเซลเซียส จากนั้น จะใช้เทคโนโลยีของ บริษัท คาร์บฟิกซ์ (CarbFix) หนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกด้านการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นหิน นำคาร์บอนไดออกไซด์แปลงให้เป็นสารละลายด้วยน้ำ แล้วส่งไปตามท่อ เก็บไว้ใต้ดินที่ความลึกอย่างน้อย 800 เมตร
ด้วยกระบวนการนี้ คาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกิน จะถูกกำจัดออกจากชั้นบรรยากาศโดยตรง และนำไปฝังไว้ใต้ดิน จากนั้นจะแข็งตัวกลายเป็นหินในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งกระบวนการนี้ผ่านการตรวจสอบและรับรองโดยบริษัท ดีอีวี (DEV) บริษัทอิสระด้านการตรวจสอบว่าทำงานได้จริงเป็นที่เรียบร้อย
โดยเบื้องต้น ไคลม์เวิร์คส์ มีองค์กรยักษ์ใหญ่เข้ามาเป็นลูกค้ารายแรก ๆ ได้แก่ ไมโครซอฟต์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง, ชอปปิฟาย (Shopify) บริษัทด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และสไตรป์ (Stripe) บริษัทด้านการเงิน และไคลม์เวิร์คส์กำลังจะเปิดโรงงานกำจัดคาร์บอนแห่งที่ 2 ในประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งจะช่วยกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกราว 36,000 เมตริกตันต่อปี

ที่มาของรูปภาพ Climeworks
ทั้งนี้ ราคาสำหรับการกำจัดและจัดเก็บคาร์บอนของลูกค้าองค์กรในแต่ละราย ไม่ได้มีเปิดเผยสาธารณะ แต่ทางบริษัท ระบุคร่าว ๆ ว่า ต้นทุนเฉลี่ยในการกำจัดคาร์บอนอยู่ที่ประมาณ หลักหมื่นบาท ต่อคาร์บอน 1 ตัน ขณะที่บริษัทยังเปิดโอกาสให้คนทั่วไปมีส่วนร่วมในการกำจัดคาร์บอน โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 20 ยูโร หรือ 712 บาท ต่อเดือน สำหรับการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ 20 กิโลกรัม ไปจนถึง 20 ยูโร หรือ 8,218 บาท ซึ่งจะกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 80 กิโลกรัม
ภาวะโลกร้อนมีสาเหตุมาจากการที่โลกมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ส่วนหนึ่งเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็ว ทำให้โลกไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ตามปกติ จนมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป โดยสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศรายงานในปี 2021 มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36,300 ล้านเมตริกตัน จึงทำให้บริษัททั่วโลกต้องตื่นตัวในการลดคาร์บอน ซึ่งเกี่ยวพันกับข้อกฏหมายด้านคาร์บอนเครดิต หรือจำนวนการปล่อยคาร์บอนของแต่ละบริษัท ในแต่ละปีอีกด้วย
ที่มาของข้อมูล interestingengineering
ที่มาของรูปภาพ Climeworks
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ปฏิวัติวัฒนธรรมการบริโภคทิ้งขว้าง สตาร์ทอัปในอังกฤษคืนชีพให้เต็นท์เก่าเป็นสินค้าใหม่
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand