
สรุปข่าว
ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก École Polytechnique Fédérale de Lausanne (EPFL) หรือ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสโลซาน ได้พัฒนาเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถถอดรหัสและสร้างสิ่งที่หนูเห็นขึ้นใหม่ โดยการวิเคราะห์สัญญาณสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่การไขความลับเกี่ยวกับระบบการทำงานของสมองได้มากขึ้น
กระบวนการทดลองเริ่มต้นอย่างไร?
จากรายละเอียดการศึกษาวิจัย ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ เนเจอร์ (Nature) ทีมนักวิจัยเปิดเผยว่า พวกเขาได้วัดและบันทึกการทำงานของสมองของหนู โดยเปิดภาพยนตร์สั้นให้หนูชม ซึ่งตัวหนู จะได้รับการติดตั้งหัววัดอิเล็กโทรดที่สอดเข้าไปบริเวณสมองส่วนการมองเห็น ร่วมกับการใช้ตัวโพรบแสง ที่ใช้สำหรับหนูที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม โดยตัวโพรบจะเรืองแสงเป็นสีเขียว เมื่อสมองของหนูมีการรับและส่งข้อมูล
ภาพจาก EPFLจากนั้น ทีมนักวิจัยก็จะเอาข้อมูลที่ได้ ไปฝึกฝนให้กับระบบอัลกอริทึมการเรียนรู้ชื่อ ซีบรา (CEBRA) เพื่อฝึกให้มันจับคู่กิจกรรมของระบบประสาทของหนู เข้ากับเฟรมภาพ (Frame) หรือช่องที่แสดงภาพแต่ละจังหวะ ซึ่งเมื่อเรียงหลายเฟรมต่อเนื่องกันก็จะกลายเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งนักวิจัยก็จะฝึกให้ระบบนี้เรียนรู้ว่าสัญญาณสมองส่วนใด เกี่ยวข้องกับเฟรมใดของภาพยนตร์โดยเฉพาะบ้าง
โดยทีมนักวิจัย จะทดลองให้หนูดูภาพยนตร์ที่มีรายละเอียดต่างจากเดิมไปอีกเล็กน้อย เพื่อให้ระบบอัลกอริทึมเรียนรู้รูปแบบการทำงานของสมองแบบใหม่ เมื่อสอนกระบวนการต่าง ๆ ให้กับระบบอัลกอริทึมเรียบร้อย มันก็จะสามารถคาดเดาได้ว่าเฟรมใดของภาพยนตร์ที่หนูกำลังดูอยู่แบบเรียลไทม์ และเปลี่ยนข้อมูลนี้ให้กลายเป็นภาพยนตร์ โดยทางทีมวิจัยเผยว่า ซีบรา (CEBRA) สามารถสร้างการแสดงข้อมูล และทำนายลำดับของเฟรมที่หนูกำลังดูด้วยความแม่นยำมากกว่าร้อยละ 95
ภาพจาก EPFLถ่ายทอดสดจากมุมมองของหนูแบบทันที
ซึ่งจากวิดีโอที่ทาง EPFL ได้เผยแพร่ จะเห็นได้ว่าหนูกำลังดูภาพยนตร์ขาวดำยุคปี 1960 ที่แสดงภาพชายคนหนึ่งที่วิ่งไปเปิดกระโปรงหลังรถ จากหน้าจอจะแสดงเทียบกันให้เห็นว่าสิ่งที่หนูดูอยู่ และสิ่งที่ระบบปัญญาประดิษฐ์จำลองภาพจากมุมมองของหนูขึ้นมา มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก แม้จะมีจุดผิดพลาดบ้างเป็นระยะก็ตาม
ภาพจาก EPFLหรือว่านี่คือต้นกำเนิดของสายลับหนู?
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่างานวิจัยชิ้นนี้ จะทำให้เราได้เห็นสิ่งที่หนูมองผ่านมุมมองของหนูจริง ๆ แต่ก็ยังห่างไกลจากความสามารถระดับขั้นนำไปฝึกหนูให้ใช้สืบข้อมูลลับ ๆ ได้ เนื่องจากงานวิจัยนี้ ยังพุ่งเป้าไปที่การทดสอบกับคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง และเป็นคลิปที่ตัวระบบอัลกอริทึมก็มีความคุ้นเคยดีเท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในงานที่น่าสนใจ ซึ่งอาจเป็นการปูทางไปสู่การปรับปรุงวิธีที่เราศึกษาสมองทั้งของมนุษย์และสัตว์ และวิธีที่เราเข้าใจปฏิกิริยาของสมองต่อสิ่งเร้าทางสายตาและสิ่งเร้าอื่น ๆ ได้มากขึ้น
ข้อมูลจาก
- สสส. เปิดตัวแพลตฟอร์มส่งเสริมกิจกรรมทางกาย
- แค่ตะโกนใส่แชท AI ก็อารมณ์ดีขึ้นได้ วิจัยชี้เป็นที่ระบายอารมณ์ชั้นดี
- ผลสำรวจเผย "Gen Z" อยากแต่งงานกับ AI แม้รู้ดีว่าเป็นเพียงความรักประดิษฐ์
- สิงคโปร์เตรียมทดลองระบบ AI ช่วยวินิจฉัยโรคหัวใจเร็วขึ้น
- พร้อมรับอนาคตอาชีพในสายงานเทคโนโลยี 6 ทักษะสำคัญที่มนุษย์ยุค AI ต้องมี
- ไทยเดินหน้าสู่ผู้นำ AI อาเซียน ! “สภาดิจิทัลฯ” เสนอบอร์ด AI แห่งชาติ ชู 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อนประเทศสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งภูมิภาค
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand