
สรุปข่าว
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาศูนย์พยากรณ์อากาศอวกาศของ NOAA สหรัฐอเมริกาได้ประกาศตรวจพบการระเบิดของพลาสมาจำนวน 4 ครั้ง บนพื้นผิวดวงอาทิตย์ส่งผลให้เกิดการปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรนา (CME) หรือพายุสุริยะ เดินทางมาถึงโลกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และครั้งล่าสุดจะเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 5 ธันวาคม ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา โดยมีความรุนแรงระดับ G1 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่มีความรุนแรงมากนัก
พายุสุริยะคืออะไร
พายุสุริยะการปลดปล่อยก้อนมวลจากโคโรนา หรือ Coronal Mass Ejection (CME) หมายถึง การปลดมวลออกมาจากบรรยากาศชั้นโคโรนาชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์อุณหภูมิ 2 ล้านองศาเซลเซียส กลุ่มมวลที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นจะอยู่ในรูปของพลาสมา หรือสถานะที่อะตอมของธาตุสูญเสียอิเล็กตรอนออกไปจนอยู่ในสภาพไอออนและอิเล็กตรอนปะปนกัน เช่น ไอออนของธาตุฮีเลียม ออกซิเจน และเหล็ก
พายุสุริยะเดินทางด้วยความเร็ว 16 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ในการเดินทางมาถึงโลก และสามารถเดินทางไปได้ไกลสุดถึงระบบสุริยะชั้นนอก หรือนับจากดาวพฤหัสบดี เป็นต้นไป
ผลกระทบจากพายุสุริยะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร สัญญาณวิทยุ โทรศัพท์ ระบบนำทาง GPS และอินเทอร์เน็ต เกิดการขัดข้อง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดแสงเหนือหรือออโรรา แสงสว่างบนท้องฟ้าที่สามารถมองเห็นได้แถบขั้วโลกและพื้นที่ตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา แคนาดา ยุโรปและรัสเซีย
สนามแม่เหล็กของโลกและการเกิดแสงเหนือออโรรา
แสงเหนือหรือแสงออโรรา (Aurora) เกิดขึ้นจากมวลจากโคโรนาเดินทางด้วยความเร็วสูงชนเข้ากับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลกทำให้เกิดแสงสีต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับประเภทของโมเลกุล กระจายไปตามเส้นสายของสนามแม่เหล็กโลก มองเห็นคล้ายผืนผ้าบนท้องฟ้า เช่น แสงสีเขียวหรือสีแดงมาจากออกซิเจน แสงสีน้ำเงินหรือแดงมาจาก ไนโตรเจน เสงสีฟ้าและชมพูมาจากฮีเลียม โดยออโรราสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ รวมไปถึงประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกับขั้วโลก
ความรุนแรงของพายุสุริยะ
ความรุนแรงของพายุสุริยะในวันอังคารที่ 5 ธันวาคม มีความรุนแรงระดับ G1 จากทั้งหมด 5 ระดับ หรือ G1 ถึง G5 โดยไรอัน เฟรนช์ (Ryan French) นักฟิสิกส์จากหอดูดาวพลังงานแสงอาทิตย์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายเพิ่มเติมว่าพายุสุริยะที่เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 5 ธันวาคม อาจไม่รุนแรงเพียงพอที่จะกระทบต่อเทคโนโลยีการสื่อสาร หรือการหยุดชะงักของเทคโนโลยีครั้งใหญ่ อาจมีเพียงผลกระทบเพียงเล็กน้อยหรือช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
ความเห็นของนักฟิสิกส์ไรอัน เฟรนช์ สอดคล้องกับรายจากดาวเทียม Solar Dynamics Observatory ของนาซา ซึ่งพบว่าพายุสุริยะลูกที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้รบกวนสัญญาณวิทยุคลื่นสั้นทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนกลับมาส่งสัญญาณได้ตามปกติ นอกจากนี้ยังมีรายงานการตรวจพบแสงเหนือหรือออโรราจากหลายประเทศทั่วโลก ในช่วงวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนและศุกร์ที่ 1 ธันวาคม
ที่มาของข้อมูล FoxWeather.com, Washingtonpost.com, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
- อย่าหลงเชื่อ! พายุสุริยะรุนแรง อาจทำให้ระบบธนาคารล่ม เงินหายหมดบัญชี
- จิสด้า เตือนพายุสุริยะ อาจกระทบระบบ GPS
- ครีมทาผิว “กันบาดทะยัก” ทดสอบกับหนูสำเร็จแล้ว !!
- บริษัทสตาร์ตอัปด้านเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง Exosonic กำลังจะปิดกิจการ
- อัปเกรด MacBook Air ยังไม่ใช้ชิป M4 ใหม่แต่เพิ่ม RAM จาก 8GB ให้เป็น 16GB ทุกรุ่น
- เปิดข้อมูล “พายุสุริยะ” จากจีน ความรุนแรงสูงสุดระดับ X ถึง 2 ครั้ง
- พายุสุริยะชนโลกแรงระดับสูงสุด ปรากฏ "แสงออโรรา" เห็นชัดทั่วสหรัฐฯ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand