เทคโนโลยีอวกาศเครื่องมือสำคัญในการติดตามและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5

เทคโนโลยีอวกาศเครื่องมือสำคัญในการติดตามและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และมะเร็งปอด การเฝ้าระวังและจัดการปัญหานี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ หน่วยงานอย่าง GISTDA นำเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียมและระบบ Remote Sensing มาใช้ตรวจสอบฝุ่นอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

การตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 ในปัจจุบันอาศัยเทคโนโลยีจากดาวเทียมหลายดาง เช่น ดาวเทียม Himawari-8 ซึ่งบันทึกข้อมูลทุก 10 นาที ครอบคลุมพื้นที่ในทวีปเอเชียและแปซิฟิก โดยมีระบบ MODIS และ VIIRS ใช้การตรวจวัดค่าฝุ่นผ่านแสงสะท้อนในชั้นบรรยากาศ 

ขณะที่ดาวเทียม Sentinel-5P ใช้เครื่องมือ Tropomi ในการวัดมลพิษทางอากาศอย่างละเอียด เช่น PM2.5 ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนไดออกไซด์ เพื่อสนับสนุนการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในระดับโลก

ข้อมูลจากดาวเทียมถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์การกระจายตัวของฝุ่นในทุกระดับพื้นที่ โดยอาศัยแบบจำลอง WRF และเทคโนโลยี AI/ML เช่น Random Forest Model เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการติดตามค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ 

ขณะเดียวกัน ระบบ GEMS บนดาวเทียม KOMPSAT-2B ทำหน้าที่ติดตามค่าฝุ่นและก๊าซในชั้นบรรยากาศ พร้อมทั้งสอบเทียบข้อมูลกับเซนเซอร์ภาคพื้นดินเพื่อความน่าเชื่อถือและความถูกต้อง

แนวทางแก้ไขและบรรเทาผลกระทบปัญหาฝุ่น PM2.5

แนวทางแก้ไขและบรรเทาผลกระทบจากมลพิษอากาศมุ่งเน้นการใช้นโยบายที่อ้างอิงข้อมูลที่แม่นยำ โดยกำหนดเขตควบคุมมลพิษและออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการพัฒนาระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อข้อมูลอวกาศ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนเมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 

นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลอวกาศในการระบุแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น การเผาในที่โล่ง เพื่อติดตั้งเทคโนโลยีลดมลพิษอย่างตรงจุด พร้อมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติผ่านองค์กรอย่าง UNEP ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปข่าว

GISTDA นำเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียมและระบบ Remote Sensing มาใช้ตรวจสอบฝุ่นอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และมะเร็งปอด การเฝ้าระวังและจัดการปัญหานี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ หน่วยงานอย่าง GISTDA นำเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียมและระบบ Remote Sensing มาใช้ตรวจสอบฝุ่นอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

การตรวจสอบค่าฝุ่น PM2.5 ในปัจจุบันอาศัยเทคโนโลยีจากดาวเทียมหลายดาง เช่น ดาวเทียม Himawari-8 ซึ่งบันทึกข้อมูลทุก 10 นาที ครอบคลุมพื้นที่ในทวีปเอเชียและแปซิฟิก โดยมีระบบ MODIS และ VIIRS ใช้การตรวจวัดค่าฝุ่นผ่านแสงสะท้อนในชั้นบรรยากาศ 

ขณะที่ดาวเทียม Sentinel-5P ใช้เครื่องมือ Tropomi ในการวัดมลพิษทางอากาศอย่างละเอียด เช่น PM2.5 ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนไดออกไซด์ เพื่อสนับสนุนการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในระดับโลก

ข้อมูลจากดาวเทียมถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์การกระจายตัวของฝุ่นในทุกระดับพื้นที่ โดยอาศัยแบบจำลอง WRF และเทคโนโลยี AI/ML เช่น Random Forest Model เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการติดตามค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ 

ขณะเดียวกัน ระบบ GEMS บนดาวเทียม KOMPSAT-2B ทำหน้าที่ติดตามค่าฝุ่นและก๊าซในชั้นบรรยากาศ พร้อมทั้งสอบเทียบข้อมูลกับเซนเซอร์ภาคพื้นดินเพื่อความน่าเชื่อถือและความถูกต้อง

แนวทางแก้ไขและบรรเทาผลกระทบปัญหาฝุ่น PM2.5

แนวทางแก้ไขและบรรเทาผลกระทบจากมลพิษอากาศมุ่งเน้นการใช้นโยบายที่อ้างอิงข้อมูลที่แม่นยำ โดยกำหนดเขตควบคุมมลพิษและออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการพัฒนาระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่อข้อมูลอวกาศ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนเมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 

นอกจากนี้ยังมีการใช้ข้อมูลอวกาศในการระบุแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น การเผาในที่โล่ง เพื่อติดตั้งเทคโนโลยีลดมลพิษอย่างตรงจุด พร้อมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติผ่านองค์กรอย่าง UNEP ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มาข้อมูล : GISTDA

ที่มารูปภาพ : GISTDA

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ