
สตาร์ตอัปในสหราชอาณาจักร เสนอวิธีการลดการใช้นมวัวในผลิตภัณฑ์ชีส หวังช่วยเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค และส่งผลดีด้านสิ่งแวดล้อมต่อโลกมากกว่ากระบวนการผลิตชีส และผลิตภัณฑ์จากนมแบบเดิม ๆ
สรุปข่าว
สตาร์ตอัปในสหราชอาณาจักร เสนอวิธีการลดการใช้นมวัวในผลิตภัณฑ์ชีส หวังช่วยเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค และส่งผลดีด้านสิ่งแวดล้อมต่อโลกมากกว่ากระบวนการผลิตชีส และผลิตภัณฑ์จากนมแบบเดิม ๆ
บริษัทสตาร์ตอัปแห่งนี้มีชื่อว่า แบตเตอร์ แดรี่ (Better Dairy) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งอ้างว่าผลิตภัณฑ์ชีสไร้นมที่พวกเขาพัฒนาขึ้น ให้รสชาติดีพอ ๆ กันกับชีสแบบดั้งเดิม แต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเลี้ยงวัว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน
เคล็ดลับของผลิตภัณฑ์ชีสไร้นมนี้ คือการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าการหมักที่แม่นยำ (precision fermentation) เพื่อผลิตเคซีน (Casein) แบบไม่ต้องพึ่งพาการใช้นมวัว โดยเคซีน (Casein) เป็นโปรตีนที่พบมากในนม ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ชีสมีรสชาติ เนื้อสัมผัส และการละลายอันเป็นเอกลักษณ์
บริษัทระบุว่า ด้วยการตั้งโปรแกรมจุลินทรีย์เพื่อสร้างโปรตีนนม และเคซีน ทำให้บริษัทสามารถผลิตชีสประเภทต่าง ๆ เช่น เชดดาร์ชีส พาร์เมซานชีส หรือผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ได้ โดยใช้กระบวนการผลิตส่วนอื่นที่คล้ายแบบเดิม
บริษัทหวังที่จะตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่ม แพลนต์-เบส แดรี่ (plant-based dairy) หรือผลิตภัณฑ์นมจากพืช ที่ได้รับความต้องการเพิ่มขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการขายโปรตีนที่พัฒนาขึ้น ให้กับผู้ผลิตอื่น ๆ ให้นำไปแทนที่วัตถุดิบผลิตชีสจากนมแบบดั้งเดิม
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่าตัวเลขการปล่อยก๊าซมีเทนทั่วโลกมาจากภาคการเกษตรกรรมมากถึงร้อยละ 40 และเกือบ 3 ใน 4 ของจำนวนนี้ มาจากการทำฟาร์มปศุสัตว์ และการทำผลิตภัณฑ์นม เนื่องจากพบการปล่อยก๊าซมีเทนในลำไส้ของวัว ที่ปล่อยออกมาจากการเรอของวัวสูงสุด
สำหรับมีเทน เป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการดักจับรังสีมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการผลิต ผลิตภัณฑ์นม ยังใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล เช่น ที่ดินและน้ำ บริษัทจึงหวังว่าผลงานนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตต่าง ๆ มีทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และได้ผลผลิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

TNNThailand