
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา OpenAI เปิดตัว o3-mini ที่เป็นโมเดล AI ที่เน้นด้านการให้เหตุผลตัวใหม่ล่าสุดของตระกูล o โมเดลนี้ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการให้เหตุผลเชิงตรรกะและวิเคราะห์เชิงลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
OpenAI อ้างว่า o3-mini เป็นโมเดลที่มีความสามารถในการให้เหตุผลคล้ายมนุษย์และถูกเพิ่มประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้นกว่าโมเดล o1 และด้วยขนาดเล็ก เน้นประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความรวดเร็ว และการใช้ทรัพยากรประมวลผลที่น้อยลง ทำให้โมเดลนี้อาจเป็นคู่แข่งที่สำคัญกับโมเดลของ DeepSeek จากบริษัทพัฒนา AI สัญชาติจีน ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงในขณะนี้
อีกทั้งการเปิดตัวในครั้งนี้ ยังจัดขึ้นหลังจากที่ DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล Open Source ‘DeepSeek-R1’ ที่มีลักษณะและคุณสมบัติคล้ายกันอีกด้วย

สรุปข่าว
OpenAi o3-mini ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีราคาต้นทุนการผลิตที่น้อยกว่าเดิม ทำให้ Open AI สามารถทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ขั้นสูงได้ง่ายขึ้น
โมเดลนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ที่รองรับการใช้งานสำหรับนักพัฒนา (Developers) เช่น การเรียกใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ภายนอก หรือ Function calling, การจัดรูปแบบข้อมูลสำหรับการนำไปใช้ต่อที่ง่ายขึ้น หรือ Structured Outputs และการแจ้งเตือนข้อมูลต่อ Developers ที่ช่วยให้ทราบถึงสถานะการทำงานของโปรแกรมแบบเรียลไทม์ หรือ Developer messages
นอกจากนี้ o3-mini ยังมีตัวเลือกสำหรับการปรับระดับความพยายามของ AI ในการให้เหตุผลด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกระหว่างการต้องการความเร็วในการตอบ หรือความแม่นยำในการตอบได้ตามความต้องการ โดยสามารถให้เหตุผลและตอบคำถามได้โดยใช้เวลาเฉลี่ยในการตอบคำถามเพียง 7.7 วินาที ซึ่งเร็วกว่า o1-mini หรือโมเดลตัวเก่าถึง 24% และยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Search Engine ทำให้สามารถดึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน มาประกอบการให้เหตุผลได้อีกด้วย
โดยผู้ใช้งาน ChatGPT สามารถเข้าทดลองใช้งาน o3-mini ได้แล้วผ่านเว็บไซต์ และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานผ่าน API ก็สามารถทำได้แล้วเช่นกัน โดยสามารถเข้าถึงได้โดยเลือกปุ่ม "Reason" ในกล่องข้อความ
การเปิดตัว o3-mini ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายซึ่งจะช่วยผลักดันให้ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น
แต่แม้ว่าการเปิดตัวครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวของการพัฒนา AI สำหรับบริษัทอเมริกัน แต่ทั้งอุตสาหกรรมก็อาจจะยังไม่สามารถคลายกังวลกับความก้าวหน้าของ DeepSeek ในฝั่งของจีนได้เช่นกัน
และบริษัทก็ยังคงอยู่ในช่วงที่ต้องจับตามอง หลังสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า OpenAI กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาระดมทุนรอบใหญ่ถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.36 ล้านล้านบาท โดย SoftBank บริษัทด้านโทรคมนาคมและการสื่อสารสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งจากรายงานคาดว่าภายหลังจากการระดมทุนสำเร็จ OpenAI จะมีมูลค่าประเมินสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10 ล้านล้านบาท
ที่มารูปภาพ : https://openai.com/index/openai-o3-mini/