
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) ในประเทศอังกฤษ และมหาวิทยาลัยเบิร์น (University of Bern) ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ค้นพบว่า "แผ่นดินไหวบนดาวอังคาร" จำนวนมาก เป็นผลมาจากคลื่นไหวสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการชนของอุกกาบาต ที่ส่งไปถึงดาวอังคารได้ไกลและลึกกว่าที่เคยคิดไว้
สรุปข่าว
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) ในประเทศอังกฤษ และมหาวิทยาลัยเบิร์น (University of Bern) ในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ค้นพบว่า "แผ่นดินไหวบนดาวอังคาร" จำนวนมาก เป็นผลมาจากคลื่นไหวสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการชนของอุกกาบาต ที่ส่งไปถึงดาวอังคารได้ไกลและลึกกว่าที่เคยคิดไว้
การค้นพบนี้ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters อาจช่วยเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสร้างภายในของดาวอังคาร และวิธีการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวอังคาร รวมถึงดาวเคราะห์หินอื่น ๆ
ดร. คอนสแตนตินอส ชาลาลัมบัส (Dr Constantinos Charalambous) หนึ่งในนักวิจัยอธิบายว่า "แผ่นดินไหวบนดาวอังคาร” (Marsquake) หมายถึงกิจกรรมแผ่นดินไหวใด ๆ ที่ทำให้พื้นผิวดาวอังคารสั่นสะเทือน ไม่ว่าจะเป็นจากการแปรสันฐานของธรณี การชนของอุกกาบาต หรือความเครียดของธรณีที่เกิดจากความร้อน
โดยทีมวิจัยใช้ AI เพื่อตรวจสอบการชนของอุกกาบาตทั้งหมดใกล้กับยานลงจอด InSight ของ NASA ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 ถึงธันวาคม 2022 ร่วมกับการสแกนภาพถ่ายหลายหมื่นภาพที่ถ่ายโดยยานสำรวจ MRO - Mars Reconnaissance Orbiter เพื่อระบุรอยการชนใหม่ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกอ้างอิงเข้ากับข้อมูลแผ่นดินไหว ที่รวบรวมโดยยานลงจอด InSight
ข้อมูลเผยให้เห็นว่าการชนของอุกกาบาตบนดาวอังคารเกิดขึ้นบ่อยกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ประมาณสองเท่า นักวิจัยเชื่อก่อนหน้านี้ว่าพลังงานจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตรวจพบโดยยาน InSight จำกัดอยู่ที่บริเวณเปลือกของดาวอังคารเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่าคลื่นไหวสะเทือนจากการชน บางครั้งสามารถเดินทางได้ลึกลงไปถึงชั้นแมนเทิล (Mantle) หรือชั้นเนื้อดาว และแผ่กระจายไปยังพื้นที่ห่างไกลบนดาวอังคาร
ขั้นตอนต่อไปสำหรับนักวิจัยคือการประเมินแบบจำลององค์ประกอบและโครงสร้างภายในของดาวอังคารอีกครั้ง เพื่ออธิบายว่าคลื่นไหวสะเทือนสามารถเข้าถึงความลึกดังกล่าวได้อย่างไร โดยเชื่อว่าพลังการประมวลผลที่รวดเร็วของ AI จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างดาวได้มากขึ้น
ที่มาข้อมูล : Reuters / NASA / JPL-Caltech / CNES / Imperial College London / University of Arizona / ASU / MSSS / University of Maryland
ที่มารูปภาพ : Reuters / NASA / JPL-Caltech / CNES / Imperial College London / University of Arizona / ASU / MSSS / University of Maryland

TNNThailand