
นักวิจัยนำเสนอข้อมูลใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์หลายดวงของดาวยูเรนัสว่ามีพื้นผิวมืดจากการสะสมฝุ่นจากบริเวณโดยรอบในอวกาศ สวนทางกับความเข้าใจก่อนหน้าที่เชื่อว่าพื้นผิวที่มืดจากภาพถ่ายด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศนั้นเป็นผลจากสนามแม่เหล็กของยูเรนัส
สรุปข่าว
นักวิจัยนำเสนอข้อมูลใหม่เกี่ยวกับดวงจันทร์หลายดวงของดาวยูเรนัสว่ามีพื้นผิวมืดจากการสะสมฝุ่นจากบริเวณโดยรอบในอวกาศ สวนทางกับความเข้าใจก่อนหน้าที่เชื่อว่าพื้นผิวที่มืดจากภาพถ่ายด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศนั้นเป็นผลจากสนามแม่เหล็กของยูเรนัส
ข้อมูลดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส
ยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 7 จากดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะจักรวาล (Outer Solar System) มีลักษณะความเอียง (Tilt) ที่เอียงตัวอย่างรุนแรง ดังนั้น การหมุนรอบตัวเองของยูเรนัสจึงทำให้เกิดสนามแม่เหล็กที่บิดเบี้ยวและไม่เสถียร โดยมีดวงจันทร์เป็นดาวบริวารทั้งหมด 28 ดวง
ในปี 1986 ยานโวยาเจอร์ 2 (Voyager 2) ได้โคจรผ่าน (Flyby) ดวงจันทร์ของดาวยูเรนัสหลายดวง และถ่ายภาพติดจุดมืดด้านหลังของดวงจันทร์เหล่านั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้นำไปสร้างเป็นแบบจำลองที่ใช้เวลาคำนวณนับทศวรรษ ก่อนสรุปว่าจุดมืดที่พบเป็นผลกระทบจากความไม่เสถียรของสนามแม่เหล็กจากยูเรนัสที่เกิดขึ้นต่อพื้นผิวของดวงจันทร์
ภาพจาก STScI
เรื่องประหลาดจากดวงจันทร์ของดาวยูเรนัส
อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยสถาบันวิทยาศาสตร์กล้องโทรทรรศน์อวกาศ (Space Telescope Science Institute: STScI) ในสหรัฐอเมริกา ได้ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble Space Telescope) ตรวจสอบพื้นผิวดวงจันทร์ดวงต่าง ๆ ที่โคจรรอบยูเรนัส พบข้อมูลที่หักล้างข้อสรุปในอดีต
โดยภาพถ่ายจากดวงจันทร์ 4 ดวง ของยูเรนัส ได้แก่ แอเรียล (Ariel) อัมเบรียล (Umbriel) ไททาเนียม (Titania) และโอเบรอน (Oberon) ต่างไม่พบสัญญาณหรือร่องรอยที่ตรงกับโมเดลที่ใช้ข้อมูลในปี 1986 มาจำลอง
นอกจากนี้ ข้อมูลภาพถ่ายที่ได้จากฮับเบิลยังพบอีกด้วยว่า ดวงจันทร์ ไททาเนียม (Titania) และโอเบรอน (Oberon) ซึ่งเป็นดวงจันทร์ส่วนนอกจากเหล่าดวงจันทร์ของยูเรนัสนั้นมีจุดมืดบนฝั่งด้านสว่าง หรือฝั่งที่ตรงกับทิศทางการโคจรรอบยูเรนัส ซึ่งต่างจากข้อมูลในปี 1986 ด้วยเช่นกัน
ทีมวิจัยแถลงว่า จุดมืดดังกล่าวแท้จริงแล้วเป็นจุดมืดจากฝุ่นที่ดวงจันทร์สะสมเอาไว้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ความบิดเบี้ยวจากสนามแม่เหล็กรอบยูเรนัสแต่อย่างใด โดยเปรียบเทียบว่าจุดมืดที่เห็นนั้นเหมือนกับแมลงที่บังกระจกหน้ารถ ยิ่งขับรถด้วยความเร็วสูง แมลงที่โดนพัดมาติดกับกระจกหน้ายิ่งมาก เช่นเดียวกันกับดวงจันทร์หลายดวงที่โคจรรอบยูเรนัสด้วยความเร็วสูงจนมีฝุ่นสะสมมากขึ้น
ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวยังคงต้องรอการยืนยันโดยภาพถ่ายจากรังสีอินฟราเรด (Infrared imaging) ที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เว็บบ์ (James Webb Space Telescope) ซึ่งจะหันทิศทางไปยังดวงจันทร์ของยูเรนัสและประมวลผลภาพได้ในปี 2026 นี้
ที่มาข้อมูล : Space.com, STScI
ที่มารูปภาพ : STScI