บริษัทกำจัดขยะอวกาศญี่ปุ่น Astroscale จดสิทธิบัตรยานอวกาศใช้งานซ้ำและทำได้หลายภารกิจ

บริษัทกำจัดขยะอวกาศญี่ปุ่น Astroscale จดสิทธิบัตรยานอวกาศใช้งานซ้ำและทำได้หลายภารกิจ

บริษัท Astroscale จากประเทศญี่ปุ่น ได้รับสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาสำหรับเทคโนโลยีการกำจัดขยะอวกาศรูปแบบใหม่เรียกว่า Shepherd  ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศษซากที่โคจรรอบโลก นวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าและคล่องตัวกว่าวิธีการกำจัดเศษซากแบบแอคทีฟ (ADR) แบบเดิม ซึ่งทำภารกิจได้แค่ครั้งเดียว 

ในขณะที่เทคโนโลยีใหม่ยาน Shepherd ของบริษัท Astroscale สามารถใช้งานซ้ำและทำภารกิจได้หลายครั้ง เพื่อรักษาความปลอดภัยของการใช้วงโคจรสำหรับภารกิจในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปข่าว

บริษัท Astroscale จากญี่ปุ่นได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีกำจัดขยะอวกาศใหม่ โดยใช้ระบบยานคู่ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ยานบริการจะรวบรวมขยะแล้วส่งให้ยานสำหรับต้อนนำไปเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศอย่างปลอดภัย ทำให้กระบวนการทั้งหมดคุ้มค่า, ยั่งยืน, และมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

บริษัท Astroscale จากประเทศญี่ปุ่น ได้รับสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาสำหรับเทคโนโลยีการกำจัดขยะอวกาศรูปแบบใหม่เรียกว่า Shepherd  ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศษซากที่โคจรรอบโลก นวัตกรรมนี้มุ่งเน้นการสร้างความคุ้มค่าและคล่องตัวกว่าวิธีการกำจัดเศษซากแบบแอคทีฟ (ADR) แบบเดิม ซึ่งทำภารกิจได้แค่ครั้งเดียว 

ในขณะที่เทคโนโลยีใหม่ยาน Shepherd ของบริษัท Astroscale สามารถใช้งานซ้ำและทำภารกิจได้หลายครั้ง เพื่อรักษาความปลอดภัยของการใช้วงโคจรสำหรับภารกิจในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการทำงานของยานอวกาศ Shepherd

รายละเอียดของเทคโนโลยีใหม่ในสิทธิบัตรนี้ใช้ทำงานด้วยระบบที่เรียกว่า "สถาปัตยกรรมแบบกระจาย" ซึ่งประกอบด้วยยานอวกาศ 2 ส่วน ทำงานประสานกัน 

ส่วนแรก คือ ยานบริการ (Servicer) ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ทำหน้าที่เข้าใกล้และรวบรวมขยะอวกาศขนาดใหญ่หลายชิ้น เช่น ดาวเทียมเก่าหรือท่อนจรวด 

ส่วนที่สอง คือ ยานต้อน (Shepherd) ทำหน้าที่นำขยะทั้งหมดกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เพื่อให้เผาไหม้บนชั้นบรรยากาศโลกอย่างปลอดภัย

หลังจากนั้นยานอวกาศ Shepherd จะทำการปรับวงโคจรเพื่อรองรับภารกิจเก็บขยะอวกาศชิ้นถัดไป

จุดเด่นด้านความยั่งยืน ความปลอดภัย และความคุ้มค่า

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของวิธีการนี้คือ การนำกลับมาใช้ใหม่ โดย "ยานบริการ" ซึ่งเป็นส่วนที่ซับซ้อนและมีราคาสูงที่สุด จะไม่ถูกทำลายไปพร้อมกับขยะแต่สามารถกลับไปปฏิบัติภารกิจใหม่ได้ 

ระบบโดยรวมมีความคุ้มค่าสูง สามารถขยายผลเพื่อกำจัดขยะจำนวนมากได้ นอกจากนี้ การควบคุมทิศทางการตกของขยะยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่เศษซากจะกระทบพื้นโลก

ขยะอวกาศภัยเงียบบนอวกาศ

ขยะอวกาศในที่นี้หมายถึงวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นและไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ยังคงโคจรรอบโลกอยู่ เปรียบเสมือน "ขยะ" ที่ลอยอยู่ในอวกาศ นับตั้งแต่ยุคบุกเบิกอวกาศเป็นต้นมา มีการส่งจรวดและดาวเทียมขึ้นไปนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เกิดขยะสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แม้บางครั้งขยะอวกาศจะเป็นเพียงวัตถุเล็ก ๆ แต่ขยะอวกาศนั้นอันตรายอย่างยิ่งยวดเนื่องจากความเร็วในการโคจรที่สูงอาจสูงถึง 28,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การปะทะแม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงได้ ขยะอวกาศจึงไม่ใช่แค่เศษเหล็กที่ลอยไปมา แต่เป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นทุกวันต่อเทคโนโลยีอวกาศ และความปลอดภัยของนักบินอวกาศ

แผนการในอนาคตของบริษัท

บริษัท Astroscale ไม่ได้มีเพียงแนวคิด แต่กำลังเตรียมทำภารกิจในหลายโครงการ เช่น การปล่อยยานเก็บขยะอวกาศ ELSA-M ในปี พ.ศ. 2569 และภารกิจ ADRAS-J2 ที่ตั้งเป้าจะนำชิ้นส่วนจรวดขนาดเท่ารถบัสออกจากวงโคจรก่อนสิ้นทศวรรษนี้ 

แผนการทั้งหมดนี้ คือ ส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของบริษัทในการสนับสนุนการใช้อวกาศอย่างยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับคนทุกรุ่น