เปิดรายงานระบุ 3 สาเหตุสำคัญนำไปสู่โศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททัน

เปิดรายงานระบุ 3 สาเหตุสำคัญนำไปสู่โศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททัน

หน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่รายงานการสอบสวนฉบับสมบูรณ์ความยาว 300 หน้า กรณีโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททันที่ระเบิดและคร่าชีวิตลูกเรือทั้ง 5 รายระหว่างการเดินทางสู่ซากเรือไททานิก 

รายงานฉบับนี้ได้ตีแผ่ภาพความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งในด้านการออกแบบทางวิศวกรรม วัฒนธรรมองค์กรที่เต็มไปด้วยความประมาท และการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยอย่างร้ายแรง ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่บทสรุปที่น่าเศร้าว่า "โศกนาฏกรรมครั้งนี้สามารถป้องกันได้"

สรุปข่าว

รายงานของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ สรุปว่าโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททันที่คร่า 5 ชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ "ป้องกันได้" โดยมีสาเหตุหลักมาจากความล้มเหลวในการออกแบบทางวิศวกรรม ประกอบกับวัฒนธรรมองค์กรที่ประมาทเลินเล่อ และการที่ผู้บริหารจงใจเพิกเฉยต่อคำเตือนและกฎระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง

หน่วยยามฝั่งสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่รายงานการสอบสวนฉบับสมบูรณ์ความยาว 300 หน้า กรณีโศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททันที่ระเบิดและคร่าชีวิตลูกเรือทั้ง 5 รายระหว่างการเดินทางสู่ซากเรือไททานิก 

รายงานฉบับนี้ได้ตีแผ่ภาพความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งในด้านการออกแบบทางวิศวกรรม วัฒนธรรมองค์กรที่เต็มไปด้วยความประมาท และการเพิกเฉยต่อความปลอดภัยอย่างร้ายแรง ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่บทสรุปที่น่าเศร้าว่า "โศกนาฏกรรมครั้งนี้สามารถป้องกันได้"

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือดำน้ำไททัน

ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เรือดำน้ำไททัน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท OceanGate ได้เริ่มต้นการเดินทางสู่ความลึกกว่า 3,300 เมตร นอกชายฝั่งนิวฟันด์แลนด์ 

สมาชิกบนเรือประกอบด้วย สต็อกตัน รัช CEO ของบริษัทซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุม, พอล-อองรี นาร์จีโอเล็ต นักสำรวจใต้ทะเลลึกชาวฝรั่งเศส, แฮมิช ฮาร์ดิง นักธุรกิจชาวอังกฤษ, และสองพ่อลูกตระกูลดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน-อังกฤษ ชาห์ซาดา และ สุเลมาน 

หลังจากเรือดำน้ำไททันดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำได้ไม่นาน การสื่อสารได้ขาดหายไป ตามมาด้วยภารกิจค้นหานาน 4 วัน ก่อนจะพบเศษซากที่บ่งชี้ว่าเรือไททันได้เกิดการ "ระเบิดเข้าด้านใน" (Implosion) จากแรงดันมหาศาลใต้ทะเลลึก ส่งผลให้ลูกเรือทั้งหมดเสียชีวิตในทันที

รายงานจากการสอบสวนของคณะกรรมการนาวิกโยธิน (MBI)


1. วัฒนธรรมองค์กรที่เป็นพิษและการตัดสินใจที่ผิดพลาด

คณะกรรมการฯ ชี้ว่าปัญหาใหญ่ที่สุดอยู่ที่ "วัฒนธรรมการบริหารจัดการที่ย่ำแย่" ภายใน OceanGate ซึ่งอำนาจทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่นายสต็อกตัน รัช ผู้ล่วงลับ

  • การเพิกเฉยคำเตือน โดยนายรัชเพิกเฉยต่อคำทักท้วงและคำเตือนทั้งจากบุคลากรภายในและผู้เชี่ยวชาญภายนอกอย่างสิ้นเชิง และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการคัดค้านใดๆ

  • การหลบเลี่ยงกฎระเบียบ รายงานระบุว่าบริษัทจงใจหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการ และไม่นำเรือเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยใดๆ

  • บุคลากรขาดคุณสมบัติ การศึกษาพบวิศวกรในโครงการจำนวนมากมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ และการฝึกอบรมนักบินเป็นไปอย่างหละหลวม

  • การลดทอนความปลอดภัย สิ่งที่มีการตัดสินใจของบริษัทที่น่าตกใจ เช่น การลดจำนวนสลักเกลียวที่ใช้ยึดฝาปิดท้ายเรือจาก 18 ตัว เหลือเพียง 4 ตัว เพื่อประหยัดเวลาในการประกอบ

2. การออกแบบที่เต็มไปด้วยจุดบกพร่องทางวิศวกรรม

  • การศึกษาพบว่าตัวถังคาร์บอนคอมโพสิต การใช้ตัวถังรูปทรงกระบอกที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์หนา 5 นิ้ว ถือเป็นการออกแบบที่เสี่ยงอย่างยิ่ง วัสดุคอมโพสิตมีแนวโน้มที่จะเสียหายจากความล้าเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของแรงดันซ้ำๆ และเมื่อเกิดความเสียหายจะแตกหักทันที แทนที่จะเสียรูปเหมือนโลหะ อีกทั้งยังยากต่อการตรวจสอบและซ่อมแซม

  • การใช้วัสดุต่างชนิด โดยการนำฝาปิดท้ายเรือที่ทำจากไทเทเนียมมาติดกาว เข้ากับตัวถังคาร์บอนคอมโพสิต สร้างจุดอ่อนร้ายแรง เนื่องจากวัสดุทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติการขยายและหดตัวภายใต้แรงดันแตกต่างกัน

  • เรือดำน้ำขาดการทดสอบที่เหมาะสม บริษัท OceanGate ล้มเหลวในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจว่าเรือดำน้ำจะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมใต้ทะเลลึกในระยะยาวอย่างไร

3. เรือดำน้ำละเลยการบำรุงรักษา

รายงานยังพบว่าเรือไททันไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างที่ควรจะเป็น โดยถูกปล่อยทิ้งไว้กลางแจ้งเผชิญหิมะและฝนเป็นเวลาหลายเดือน และถูกลากจูงกลางทะเลคลื่นลมแรงเป็นระยะทางหลายพันไมล์ 

โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นไม่มีการตรวจสอบผลกระทบต่อโครงสร้างเรืออย่างจริงจัง การตรวจสอบซากยังพบข้อบกพร่องในกาวที่ยึดฝาปิดท้ายเรือ และพบว่าชั้นวัสดุของตัวถังเริ่มมีการแยกตัวออกจากกัน (Delamination)

รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้มีการกำกับดูแลที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับพาหนะสำรวจใต้ทะเลลึก และเสนอแนะแนวทางที่ชัดเจนสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้ยังคงอยู่ในกรอบของความปลอดภัย 

โศกนาฏกรรมของเรือดำน้ำไททันได้ย้ำเตือนบทเรียนอันโหดร้ายที่ว่า "ท้องทะเลไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การเล่นสนุก" และการมองข้ามความปลอดภัยเพื่อแลกกับนวัตกรรมหรือผลประโยชน์ทางการเงิน อาจนำมาซึ่งความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้

ที่มาข้อมูล : https://newatlas.com/marine/titan-disaster-report/

ที่มารูปภาพ : OceanGate