Agentic AI กับธุรกิจธนาคาร เมื่อธุรกิจนี้ไม่สามารถผิดได้ !!

Agentic AI กับธุรกิจธนาคาร เมื่อธุรกิจนี้ไม่สามารถผิดได้ !!

คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร CEO จาก SCB 10X และ Chief Innovation Officer จาก SCBX คือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวงการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในไทย   

คุณกวีวุฒิ จึงเป็นหนึ่งในคนที่มาร่วมแชร์มุมมองว่าไทยมีความพร้อมแค่ไหนกับ AI เหมือนหัวข้อ “เช็กความพร้อม ! รับมือ Agentic AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ ‘ตัดสินใจ’ ได้เอง” ที่จัดขึ้นในงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 18 ของสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16 ในแนวคิด “Transforming Thailand: ปรับโฉมไทย สู่อนาคตและความยั่งยืน”

สรุปข่าว

คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร CEO จาก SCB 10X และ Chief Innovation Officer จาก SCBX คือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวงการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในไทย คุณกวีวุฒิ จึงเป็นหนึ่งในคนที่มาร่วมแชร์มุมมองว่าไทยมีความพร้อมแค่ไหนกับ AI เหมือนหัวข้อ “เช็กความพร้อม ! รับมือ Agentic AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ ‘ตัดสินใจ’ ได้เอง” ที่จัดขึ้นในงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 18 ของสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16 ในแนวคิด “Transforming Thailand: ปรับโฉมไทย สู่อนาคตและความยั่งยืน”

คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร CEO จาก SCB 10X และ Chief Innovation Officer จาก SCBX คือหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนวงการปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในไทย   

คุณกวีวุฒิ จึงเป็นหนึ่งในคนที่มาร่วมแชร์มุมมองว่าไทยมีความพร้อมแค่ไหนกับ AI เหมือนหัวข้อ “เช็กความพร้อม ! รับมือ Agentic AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ ‘ตัดสินใจ’ ได้เอง” ที่จัดขึ้นในงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 18 ของสถานีโทรทัศน์ TNN ช่อง 16 ในแนวคิด “Transforming Thailand: ปรับโฉมไทย สู่อนาคตและความยั่งยืน”

นิยามของ Agentic AI มันคืออะไร ?

คุณกวีวุฒิให้นิยามของ Agentic AI ว่าคือการใช้ AI หลาย ๆ ตัวมาช่วยมนุษย์เราทำงาน หากเราใช้ ChatGPT เพียงตัวเดียว มันก็เหมือนกับเราใช้ทีมงานเพียงคนเดียวทำงาน แต่ Agentic AI คือเหมือนกับเรามีทีมงานหลายคน หลายประเภท พอเราออกคำสั่งเขา เขาก็จะไปพูดคุย และทำงานกันเอง เพื่อที่จะทำงานที่มันซับซ้อนมากขึ้น

ส่วน AGI หรือ Artificial General Intelligence ในปัจจุบัน เป็นเหมือนกับ "หมุดหมาย" ยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ในอนาคตเกิดขึ้นแน่ โดยมันก็คือ AI ที่จะมีความสามารถเทียบเท่ากับมนุษย์ เป็นนิยามหรือเป้าหมายขององค์กรด้าน AI ที่ตั้งเป้าจะสร้างขึ้นมาให้สำเร็จ

ในด้านองค์กรเกี่ยวกับ "ไฟแนนซ์" ใช้ Agentic AI แบบไหนบ้างแล้ว ?

คุณกวีวุฒิพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้ในธุรกิจธนาคารมานานมากแล้ว อย่างการอนุมัติสินเชื่อก็ใช้ AI ประมวลผลทั้งหมด การมาถึงของ Agentic AI จึงเป็นการเพิ่มความหลากหลายของการบริการที่มากขึ้น ซึ่งจะรองรับความแตกต่างของลูกค้าได้มากกว่าเดิม

แต่ประเด็นหนึ่งที่ทางคุณกวีวุฒิชี้ให้เห็น คือการนำ Agentic AI มาเช็คประสิทธิภาพการทำงาน ของพนักงานที่อยู่หน้างาน โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องยากและสำคัญ โดยเฉพาะกับธุรกิจธนาคารที่มีจำนวนสาขามากมาย และเป็นธุรกิจที่จะผิดไม่ได้ เพราะถ้าผิดหมายถึงการโดนลูกค้าฟ้องร้อง AI จึงกำลังถูกมองว่ามีประสิทธิภาพที่จะช่วยเรื่องเหล่านี้

ทำไมปัจจุบันเราถึงต้องโฟกัสเรื่อง Agentic AI

คุณกวีวุฒิอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า Agentic AI เป็นเพียงการพัฒนาขึ้นของ Generative AI ที่สามารถให้คำตอบกับเราในเชิงลึกได้มากกว่าเดิม มันไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นเพียงความก้าวหน้าของ AI ที่จะเกิดคำถามตามมา ว่าเราจะนำสิ่งไปใช้งานในองค์กรต่อไปได้อย่างไรมากกว่า

Agentic AI มีบทบาทอย่างไรในต่างประเทศ ?

คุณกวีวุฒิเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบัน Agentic AI ถูกนำมาใช้ในธุรกิจด้าน E-commerce เป็นหลัก เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องเน้นขายให้โดนใจลูกค้า ตอบโจทย์ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการให้ได้มากที่สุด คุยแล้วเหมือนคุยกับคนด้วยกัน และรู้จักตัวลูกค้าดีที่สุด โดยสิ่งเหล่านี้จะมีการแบ่ง AI ที่แตกต่างกันในแต่ละหน้าที่ไปเลย

โดยในอนาคต เราจะได้เห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้รวมเป็นเครื่องมือเพียง 1 เดียว แต่ใช้งานได้ครบวงจรทั้งหมด แถมอาจช่วยเรามากกว่าหน้าที่ของตัวมันเอง เช่น ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับเราเป็นต้น

ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่นำ Agentic AI มาใช้งานจริง ๆ เลย

คุณกวีวุฒิเล่าถึงการนำ Agentic AI มาใช้กับธุรกิจของธนาคาร ที่โฟกัสเรื่องของกฎเกณฑ์ที่ต้องไม่ผิดต่อแบงค์ชาติ โดยในอนาคตการ "สุ่มตรวจ" จะไม่มีแล้ว เนื่องจากมันให้ประสิทธิผลในการตรวจเช็คที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพียงแต่ปัจจุบันมันเหมาะกับการตรวจสอบองค์กรที่มีมากมายหลายสาขา

Agentic AI จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องของการสุ่มตรวจได้อย่าง 100% โดยการสร้างระบบสำหรับตรวจเช็คพนักงาน ที่พนักงานทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจสอบอย่างเท่าเทียม และจะสามารถแก้ไขปัญหาของความถูกต้องซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจธนาคารนั้นซีเรียสได้อย่างตรงจุด ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการนำเอามาใช้งานจริงแล้ว

ประเทศไทยพร้อมกับ Agentic AI รึยัง ?

คุณกวีวุฒิมองว่าการที่ AI ไม่สามารถทำผิดได้ จะทำให้การรอิมพลีเม้นท์ยากขึ้น ดังนั้นเจ้าขององค์กรจึงต้องมองว่าเทคโนโลยีเราต้องเข้าใจมัน แต่เราจะรอให้มันเพอร์เฟคไม่ได้ เราต้องปล่อยให้ AI ทำผิด เพื่อที่จะพัฒนามันต่อเพื่อให้มันถูกอย่าง 100%

ในแง่ของอายุผู้ใช้งาน มองว่าปัจจุบัน AI สามารถเข้าถึงทุกช่วงวัยได้มากขึ้น เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่าย และทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น จุดปัญหาเดียวมันอยู่ที่ว่า ผู้ใช้ต่าง ๆ จะมองเห็นถึงการนำมันมาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าพวกเขามองเห็น มันจะถูกนำมาใช้อย่างแน่นอน

ในฝั่งของการศึกษา AI จะกลายเป็นของที่ทุกภาคส่วนต้องใช้มัน โดยจะถูกฝังเข้าไปไว้ในหลักสูตรการศึกษาโดยตรงเลย เพราะในอนาคตนักศึกษาที่จบออกมาทุกคน จะต้องใช้มันในการทำงาน และเขายังพบว่า คนที่เก่ง AI ในปัจจุบัน ไม่ใช่คนจากสายเทคโนโลยี แต่เป็นคนที่มาจากสายธุรกิจ มันแสดงให้เห็นว่าในอนาคตธุรกิจที่ไม่ใช้ AI จะไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้

ในอนาคตจะมีบริษัทที่มีพนักงานเพียง 1 คน แต่ดำเนินธุรกิจได้ โดยใช้ AI เป็นพนักงานทั้งหมดเกิดขึ้นมา เพราะตอนนี้ AI ถูกมองว่ามีประสิทธืภาพมากกว่าคนทำงานแล้ว

Agentic AI เป็นโอกาสของใคร ?

คุณกวีวุฒิมองว่า Agentic AI จะเป็นโอกาสของทุกคน ปัจจุบันตอนนี้ AI ถือว่าแพงที่สุดแล้ว ในอนาคตมันจะมีแต่ถูกลง แต่ฉลาดกว่าเดิม ผู้ใช้อย่างเราจึงได้ประโยชน์ทุกคน แต่คำถามคือ คุณเริ่มใช้งานมันตอนไหน ถ้าใช้งานตอนนี้เราก็จะได้ประโยชน์จากมันทันที โดยเฉพาะองค์กรที่เกิดใหม่ จะสามารถใช้งานได้ทันที ต่างจากองค์กรใหญ่ ๆ ที่ไม่สามารถขยับตัวได้มากนัก

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN

แท็กบทความ