
วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท ไซโคลเทค (CycloTech) จากประเทศออสเตรีย ได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบบินต้นแบบ BlackBird หลังผ่านการจำลองสถานการณ์และตรวจสอบข้อมูลจากอุโมงค์ลม ผลการทดสอบยืนยันว่าระบบควบคุมการบินทำงานได้อย่างแม่นยำตามที่ออกแบบไว้
สรุปข่าว
วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา บริษัท ไซโคลเทค (CycloTech) จากประเทศออสเตรีย ได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบบินต้นแบบ BlackBird หลังผ่านการจำลองสถานการณ์และตรวจสอบข้อมูลจากอุโมงค์ลม ผลการทดสอบยืนยันว่าระบบควบคุมการบินทำงานได้อย่างแม่นยำตามที่ออกแบบไว้
เปโดร คาร์ราสโก ลาราญา (Pedro Carrasco Laraña) วิศวกรทดสอบการบินของบริษัท เผยว่า “หลังจากการจำลอง การตรวจสอบระบบ การทดสอบทั้งภาคพื้นดินและการบินหลายครั้ง เราได้เห็นระบบควบคุมการบินของ BlackBird ทำงานได้อย่างที่คาดไว้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญสู่การบินที่มีความคล่องตัวสูง”
อากาศยาน BlackBird ใช้แนวคิดที่แตกต่างออกไป
เทคโนโลยี CycloRotor ของ CycloTech แตกต่างจากเฮลิคอปเตอร์หรือใบพัดโดรนทั่วไป โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่หลักการควบคุมแรงยกและแรงขับเคลื่อนผ่าน "ใบพัดหมุนแนวนอนรอบแกน" แทนที่จะใช้โรเตอร์แบบจานหมุนหรือใบพัดแนวตั้งแบบดั้งเดิม
ตัวอย่างเช่น เฮลิคอปเตอร์ ใช้เทคโนโลยีโรเตอร์หลักขนาดใหญ่หมุนในแนวนอนเพื่อสร้างแรงยก แต่เทคโนโลยี CycloRotor ใช้ใบพัดหลายตัวหมุนคงที่ ความเร็วรอบต่างกันเพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ การเลี้ยว ขึ้นลงเกิดจากการ ปรับรอบมอเตอร์แต่ละใบพัด บริษัทยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้โครงสร้างเรียบง่าย ต้นทุนต่ำ ควบคุมง่าย และประหยัดพลังงาน
เทคโนโลยี CycloRotor หัวใจหลักของการบิน
หัวใจสำคัญของอากาศยานต้นแบบBlackBird อยู่ที่ ระบบขับเคลื่อน CycloRotor ซึ่งทำงานคล้ายกังหันน้ำ โครงสร้างมีน้ำหนักสูงสุดขณะบินขึ้นที่ 340 กิโลกรัม และขนาดความยาว 4.9 เมตร กว้าง 2.3 เมตร และสูง 2.0 เมตร
ระดับขับเคลื่อนใช้ใบพัดจำนวน 6 ตัว ติดตั้งรอบตัวต้นแบบ BlackBird และหมุนได้รอบทิศทาง 360 องศา ใบพัดแต่ละตัวขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง และสามารถปรับองศาเอียงของใบพัดได้อย่างอิสระ ทำให้เครื่องสามารถขึ้น-ลงแนวดิ่ง หมุนกลับหลัง หรือเปลี่ยนทิศบินได้อย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมปี 2023 บริษัทประสบความสำเร็จในการทดสอบต้นแบบที่มีน้ำหนักราว 80 กิโลกรัม และสามารถบินกลางแจ้งได้อย่างมั่นคง เป็นก้าวแรกสู่การพัฒนารถบินได้ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
สเปกต้นแบบใหม่ และเป้าหมายในอนาคต
ต้นแบบ BlackBird ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของอากาศยานโดรนแบบ Light eVTOL Demonstrator โดยคาดว่าต้นแบบที่กำลังพัฒนามีแผนจะทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขอการรับรองมาตรฐานจาก สำนักงานความปลอดภัยด้านการบินยุโรป (EASA) เพื่อปูทางสู่การใช้งานจริง
CycloTech วางเป้าหมายให้ยานพาหนะที่เรียกว่า CruiseUp ไม่เพียงเป็นพาหนะส่วนบุคคล แต่ยังสามารถพัฒนาเพื่อใช้เป็น รถตำรวจ หรือ รถพยาบาลบินได้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ และตั้งเป้านำรถบินนี้ออกสู่ตลาดภายในปี 2035
การพัฒนาของ ไซโคลเทค (CycloTech) ไม่ได้เป็นเพียงการทดลองสร้างต้นแบบ BlackBird แต่เป็นการปูทางไปสู่อนาคตของการคมนาคมที่ผสมผสานความคล่องตัวและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน
หากแผนการเป็นไปตามที่วางเอาไว้ บางทีเราอาจได้เห็นท้องฟ้าในอีกสิบปีข้างหน้าเต็มไปด้วยยานพาหนะที่บินขึ้น-ลงได้จากใจกลางเมือง ตอบสนองทั้งความฝันของผู้คนและภารกิจเพื่อสังคมอย่างแท้จริง ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนว่าเทคโนโลยีการบินกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมนุษย์ให้ใกล้อนาคตยิ่งกว่าที่เคยคิดไว้
- "ปืนยิงโดรน" และระบบต่อต้านโดรน นวัตกรรมสุดล้ำในสมรภูมิยุคใหม่
- เลื่อนปล่อยภารกิจ Ax-4 หลังพบการรั่วของออกซิเจนเหลว (LOx) ขณะตรวจสอบระบบ
- เปิดตัว visionOS 26 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ยกระดับ Apple Vision Pro
- จีนเคลมยิงสัญญาณควอนตัม (Quantum Information Link) ไปแอฟริกาใต้ ทำสถิติไกลสุดในโลก 12,900 กม.
- CEO Samsung เสียชีวิตเรื่องใหญ่ที่ CEO คนถัดไปต้องรับศึกหนัก
ที่มารูปภาพ : CycloTech
