ยุโรปพัฒนาเครื่องบินอวกาศ "VORTEX" ก้าวสำคัญด้านอวกาศที่พลิกโฉมทั้งพลเรือนและทางการทหาร

ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ

พล.ต. ฟิลิปป์ คอฟฟี (Maj. Gen. Philippe Koffi) หัวหน้ายุทธศาสตร์ด้านการรบทางอากาศ ทางบก และทางทะเลของหน่วยงานอาวุธฝรั่งเศส (DGA) กล่าวที่ Space Defense & Security Summit ในปารีสเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมาว่า 

"ยุโรปควรลงทุนในขีดความสามารถที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเช่นยานอวกาศ" 

เขากล่าวเสริมว่า "ยานอวกาศมีความคล่องตัว สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถส่งสัมภาระขึ้นสู่วงโคจร กู้คืนทรัพย์สินสำคัญ ดำเนินการลาดตระเวน และแทรกแซงภัยคุกคามในวงโคจรได้"

เครื่องบินอวกาศคืออะไร ?

เครื่องบินอวกาศ (Spaceplane) นั้นเป็นยานพาหนะที่ออกแบบมาให้ทำงานได้ทั้งในชั้นบรรยากาศเหมือนเครื่องบิน และในอวกาศเหมือนยานอวกาศ โดยทั่วไปสามารถบินขึ้นหรือลงจอดบนรันเวย์ได้เหมือนเครื่องบินปกติ แต่มีระบบขับเคลื่อนและโครงสร้างที่ทนต่อสภาวะรุนแรงนอกโลก เช่น ความเร็วสูง ความร้อนจากการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และแรงดันอากาศต่ำ 

ตัวอย่างเช่น กระสวยอวกาศของนาซา (Space Shuttle) และ X-37B ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เครื่องบินอวกาศถือเป็นเทคโนโลยีที่พยายามผสานการเดินทางทางอากาศและอวกาศเข้าด้วยกัน เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มความสะดวกในการใช้งานอวกาศทั้งเพื่อการทหาร วิทยาศาสตร์ และเชิงพาณิชย์

โครงการเครื่องบินอวกาศ VORTEX

โครงการ VORTEX หรือ Véhicule Orbital Réutilisable de Transport et d’Exploration ได้รับการประกาศข้อตกลงการพัฒนาระหว่าง Dassault Aviation และ DGA ที่งาน Paris Air Show เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยานต้นแบบสาธิตลำนี้มีความยาวสี่เมตร และมีมวลน้อยกว่าหนึ่งเมตริกตัน 

โดยคาดว่า VORTEX จะทำการบินครั้งแรกในปี 2028 สำหรับการส่งขึ้นสู่อวกาศ ตัวเครื่องบินอวกาศ VORTEX จะถูกปล่อยด้วยจรวดขนาดเล็ก สามารถเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงสูง (Hypersonic speeds) ทำการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และใช้ในการตรวจสอบเทคโนโลยีสำคัญต่าง ๆ รวมถึงระบบป้องกันความร้อน นอกจากนี้ VORTEX ได้รับการออกแบบให้สามารถลงจอดบนรันเวย์ของสนามบินได้

แม้ว่าโครงการ VORTEX จะเป็นโครงการของฝรั่งเศส แต่เป้าหมายไม่ใช่การสร้างฝูงยานอวกาศของตนเอง แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ทางเทคนิคผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน 

การพัฒนาเครื่องบินอวกาศ VORTEX

โดยบริษัท Dassault Aviation และพันธมิตรทางอุตสาหกรรมอื่น ๆ จะรับผิดชอบครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่ายโครงการ Dassault Aviation มีความตั้งใจที่จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านอวกาศของตน เพื่อพัฒนาระบบยานอวกาศที่เปลี่ยนแปลงระบบปัจจุบัน กระบวนการนวัตกรรมจะดำเนินการเป็นขั้น ๆ 

กระบวนการพัฒนาเครื่องบินอวกาศ เริ่มต้นด้วย VORTEX-D (ยานสาธิตการบิน), ตามด้วย VORTEX-S (Smart Free Flyer), VORTEX-C (Cargo) และ VORTEX-M (Manned) อย่างไรก็ตามรายละเอียดเชิงลึกด้านเทคนิคของการพัฒนาแต่ละรุ่นยังไม่ถูกเปิดเผยออกมามากนัก

พล.ต. ฟิลิปป์ คอฟฟี (Maj. Gen. Philippe Koffi) เน้นย้ำถึง การใช้งานทางทหารที่สำคัญของยานอวกาศ โดยระบุว่าสามารถ "ปรับใช้ดาวเทียม เซ็นเซอร์ และแม้กระทั่งอาวุธในวงโคจรได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน แทนที่จะเป็นหลายเดือน" ยานอวกาศยังมีความหลากหลายในการใช้งาน 

โดยเน้นย้ำความสำคัญว่า "การขนส่งที่รวดเร็ว การให้บริการยานอวกาศ และแม้กระทั่งการกู้คืนทรัพย์สินที่สำคัญ" เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ยานอวกาศมีความไม่แน่นอน ทำให้สามารถ "เข้าถึงได้ทั่วโลกภายในไม่ถึง 90 นาที ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนสำหรับศัตรูและยังเป็นการป้องปรามด้วย" 

นอกจากนี้ พล.ต. ฟิลิปป์ คอฟฟี (Maj. Gen. Philippe Koffi) ยังมองว่าเครื่องบินอวกาศเป็นส่วนเสริมเชิงตรรกะของระบบการรบทางอากาศในอนาคต (FCAS) ของฝรั่งเศส และ VORTEX อาจเป็นห่วงโซ่ที่ขาดหายไปในการบรรลุความเป็นเจ้าอากาศ โดยเฉพาะการตรวจจับ สกัดกั้น และดำเนินการกับภัยคุกคามในอวกาศใกล้เคียงที่ระดับความสูง 20 ถึง 100 กิโลเมตร

สำหรับการใช้งานพลเรือนและวิทยาศาสตร์ ยานอวกาศสามารถใช้ในการขนส่งไปยังสถานีอวกาศ, เป็นแพลตฟอร์มโคจรแบบอิสระ, การให้บริการและการแทรกแซงในวงโคจร, การวางตำแหน่งสินทรัพย์ในวงโคจรล่วงหน้า, และการกู้คืนวัตถุ ยานเหล่านี้มีช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่

คลิกชมวิดีโอได้จากลิงก์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=KonUSO0H8hg