ทีมงาน Skunk Works เปิดตัวโดรนรบล่องหนรุ่นใหม่ “Vectis” รองรับภารกิจหลายรูปแบบ

ทีมงาน Skunk Works เปิดตัวโดรนรบล่องหนรุ่นใหม่ “Vectis” รองรับภารกิจหลายรูปแบบ

โครงการลับของล็อกฮีด มาร์ติน สกังค์ เวิร์กส์ (Lockheed Martin Skunk Works) ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ หลังจากบริษัทเปิดตัว Vectis Collaborative Combat Aircraft (CCA) โดรนรบไร้คนขับที่มีคุณสมบัติพรางตัว (Stealth) และพัฒนาขึ้นด้วยเงินทุนของบริษัทเองทั้งหมด

ทีมงานสกังค์ เวิร์กส์ (Skunk Works หรือ Lockheed Martin Advanced Development Programs) เป็นหน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังตำนานเครื่องบินรบหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ P-80 Shooting Star, U-2 Dragon Lady, SR-71 Blackbird, F-117 Nighthawk จนถึง X-59 QueSST และครั้งนี้ได้เพิ่มชื่อ “Vectis” เข้าสู่สายการพัฒนาอากาศยานล้ำสมัย

สรุปข่าว

ทีม Skunk Works เปิดตัว Vectis โดรนรบล่องหนรุ่นใหม่ ที่ออกแบบเป็นแพลตฟอร์มมัลติมิชชัน ใช้ปฏิบัติการได้ทั้งโจมตีแม่นยำ ลาดตระเวน ISR และสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ขนาดเล็กกว่า F-16 แต่ใหญ่กว่าโดรนทั่วไป Vectis ยังอยู่ระหว่างการสร้างต้นแบบ แต่ถูกออกแบบให้บินร่วมกับ F-35 ใช้สถาปัตยกรรมระบบเปิด ลดต้นทุน และรองรับการอัปเกรดในอนาคต

โครงการลับของล็อกฮีด มาร์ติน สกังค์ เวิร์กส์ (Lockheed Martin Skunk Works) ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ หลังจากบริษัทเปิดตัว Vectis Collaborative Combat Aircraft (CCA) โดรนรบไร้คนขับที่มีคุณสมบัติพรางตัว (Stealth) และพัฒนาขึ้นด้วยเงินทุนของบริษัทเองทั้งหมด

ทีมงานสกังค์ เวิร์กส์ (Skunk Works หรือ Lockheed Martin Advanced Development Programs) เป็นหน่วยงานที่อยู่เบื้องหลังตำนานเครื่องบินรบหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่ P-80 Shooting Star, U-2 Dragon Lady, SR-71 Blackbird, F-117 Nighthawk จนถึง X-59 QueSST และครั้งนี้ได้เพิ่มชื่อ “Vectis” เข้าสู่สายการพัฒนาอากาศยานล้ำสมัย

แม้ต้นแบบของโดรนรบล่องหนรุ่นใหม่ “Vectis” ยังไม่เสร็จสมบูรณ์และยังไม่บินจริง แต่ภาพเรนเดอร์เผยให้เห็นดีไซน์ปีกเดลต้าปรับแต่งพิเศษ ช่องอากาศและไอเสียติดตั้งด้านบน บ่งบอกชัดถึงการออกแบบเพื่อเน้นคุณสมบัติการล่องหน ขนาดของมันใหญ่กว่าโดรน CMMT แต่เล็กกว่า F-16 Fighting Falcon จัดอยู่ในกลุ่ม UAV ระดับ 5 ที่มีน้ำหนักบินขึ้นเกิน 600 กิโลกรัม และบินได้สูงกว่า 5,500 เมตร

โดรนรบล่องหน “Vectis” ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มมัลติมิชชัน รองรับทั้งการโจมตีแม่นยำ การลาดตระเวน ISR สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และปฏิบัติการตอบโต้ทางอากาศ โดยระบบอัตโนมัติสามารถทำงานได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีมเคียงข้าง F-35 Lightning II หรืออากาศยานอื่น ๆ

และที่สำคัญบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน เน้นพัฒนา “Vectis” ด้วยสถาปัตยกรรมระบบเปิด เพื่อให้ปรับแต่งและอัปเกรดง่าย ลดการผูกขาดจากผู้ขาย และใช้วิศวกรรมดิจิทัลร่วมกับกระบวนการผลิตขั้นสูง ทำให้มีต้นทุนที่ “จับต้องได้” มากขึ้น

โอเจ ซานเชซ (O.J. Sanchez) รองประธาน Skunk Works กล่าวย้ำว่า “Vectis คือ จุดสูงสุดของความเชี่ยวชาญด้านการบูรณาการระบบและเครื่องบินขับไล่ขั้นสูง เราไม่ได้สร้างเพียงแพลตฟอร์มใหม่ แต่สร้างกระบวนทัศน์ใหม่ของพลังทางอากาศ ที่ปรับตัวได้ คล่องตัว และราคาไม่แพง”

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีของโดรนบินล่องหน “Vectis” ไม่ถูกเปิดเผยออกมามากนัก เช่น ความเร็วการเดินทาง ความเร็วสูงสุด และข้อมูล ๆ ที่สำคัญด้านการบิน

สำหรับทีม Skunk Works นั้นมีประสบการณ์ยาวนานหลายทศวรรษในการใช้ประโยชน์จากความเร็ว ความสูง รูปทรง วัสดุขั้นสูง และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับแพลตฟอร์มทั้งแบบมีคนขับและไม่มีคนขับในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยากที่สุดของนักบินที่เป็นมนุษย์

แท็กบทความ