ปัจจุบันการใช้งานสมาร์ตโฟนเล่นโซเชียลมีเดีย หรือการใช้เวลาเล่นเกมมือถือ อาจส่งผลให้เกิดอาการตาล้าได้ ในขณะที่ทางเลือกของอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีจอภาพ E Ink ถนอมสายตา หรือหน้าจอหมึกอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา มีตัวเลือกไม่มากนักและมีราคาสูง
สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นที่เพิ่มเข้ามา มีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายกัน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน เนื่องจากรุ่นหนึ่งมาพร้อมจอแสดงผล ePaper ขาวดำ และอีกรุ่นมาพร้อมจอสี ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดหน้าจอ 5.84 นิ้ว
โดยสมาร์ตโฟนรุ่น HiBreak S จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 14 และมาพร้อมกับชุดแอปพลิเคชันสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity apps) ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
สำหรับผู้ที่เลือกรุ่นขาวดำ (Monochrome HiBreak S) จะได้รับภาพที่มีความละเอียด 720 x 1,440 พิกเซล (276 ppi) และมาพร้อมเทคโนโลยีรีเฟรชที่รวดเร็วของบริษัท (Fast-refresh technology) ซึ่งรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 24 เฟรมต่อวินาที (fps) เทคโนโลยีนี้เรียกว่า xRapid ซึ่งควรจะช่วยให้การเลื่อนหน้าหรือการเปลี่ยนหน้ามีความราบรื่น นอกจากนี้ Bigme ยังได้ใส่อัลกอริทึมเพื่อลดภาพซ้อน (Ghosting) เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่สะอาดและสบายตายิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการจอสีจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยหน้าจอยังคงมีความละเอียดขาวดำอยู่ที่ 720 x 1,440 พิกเซลเท่ากัน แต่จะมีความละเอียดเพียง 240 x 480 พิกเซล (92 ppi)
สรุปข่าว
ปัจจุบันการใช้งานสมาร์ตโฟนเล่นโซเชียลมีเดีย หรือการใช้เวลาเล่นเกมมือถือ อาจส่งผลให้เกิดอาการตาล้าได้ ในขณะที่ทางเลือกของอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีจอภาพ E Ink ถนอมสายตา หรือหน้าจอหมึกอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดความเมื่อยล้าของดวงตา มีตัวเลือกไม่มากนักและมีราคาสูง
สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นที่เพิ่มเข้ามา มีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายกัน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน เนื่องจากรุ่นหนึ่งมาพร้อมจอแสดงผล ePaper ขาวดำ และอีกรุ่นมาพร้อมจอสี ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดหน้าจอ 5.84 นิ้ว
โดยสมาร์ตโฟนรุ่น HiBreak S จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 14 และมาพร้อมกับชุดแอปพลิเคชันสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity apps) ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
สำหรับผู้ที่เลือกรุ่นขาวดำ (Monochrome HiBreak S) จะได้รับภาพที่มีความละเอียด 720 x 1,440 พิกเซล (276 ppi) และมาพร้อมเทคโนโลยีรีเฟรชที่รวดเร็วของบริษัท (Fast-refresh technology) ซึ่งรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุดถึง 24 เฟรมต่อวินาที (fps) เทคโนโลยีนี้เรียกว่า xRapid ซึ่งควรจะช่วยให้การเลื่อนหน้าหรือการเปลี่ยนหน้ามีความราบรื่น นอกจากนี้ Bigme ยังได้ใส่อัลกอริทึมเพื่อลดภาพซ้อน (Ghosting) เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่สะอาดและสบายตายิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการจอสีจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยหน้าจอยังคงมีความละเอียดขาวดำอยู่ที่ 720 x 1,440 พิกเซลเท่ากัน แต่จะมีความละเอียดเพียง 240 x 480 พิกเซล (92 ppi)
สเปกและฟีเจอร์เด่น
นอกจากการลดอาการล้าของดวงตาแล้ว เทคโนโลยี E Ink ยังช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น หลังการชาร์จแต่ละครั้ง โดยใช้แบตเตอรี่ขนาด 3,300-mAh สำหรับรุ่น HiBreak S ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ดีทั้งในสภาพแสงสว่างภายในอาคาร และยังมีไฟส่องสว่างด้านหน้าในตัว (Built-in front light) 36 ระดับ สำหรับใช้งานในมุมที่มืด
สเปกหลักอื่น ๆ ได้แก่
- โปรเซสเซอร์ octa-core
- RAM 6 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB
- สามารถขยายพื้นที่เก็บข้อมูลได้สูงสุด 1 TB ผ่าน microSD
- รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE และใช้งานเป็นโทรศัพท์มือถือได้
โดยรุ่น HiBreak S สีขาว-ดำ และรุ่น HiBreak S รุ่นสี E Ink จะมาพร้อมกล้องคู่ กล้องหลักด้านหลัง 13 เมกะพิกเซล และกล้องเซลฟี่ด้านหน้า 5 เมกะพิกเซล พร้อมด้วยเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) ที่ราบรื่นสำหรับการสแกนเอกสาร
ราคาและการวางจำหน่าย
สำหรับรุ่น HiBreak S สีขาว-ดำ มีราคาอยู่ที่ 249 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,000 บาท ส่วนรุ่น HiBreak S รุ่นสี E Ink มีราคาสูงขึ้นเป็น 279 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9,000 บาท
- สมาร์ตโฟนถูกแบนในห้องเรียน กฎหมายใหม่เกาหลีใต้ เริ่มมีนาคม 2026
- vivo X Fold5 จอพับเรือธง 59,999 บาท ทนทาน กางได้ 600,000 ครั้ง จอใหญ่ 8.03 นิ้ว บางสุด 4.3 มิลลิเมตร
- เลื่อนปล่อยภารกิจ Ax-4 หลังพบการรั่วของออกซิเจนเหลว (LOx) ขณะตรวจสอบระบบ
- เปิดตัว visionOS 26 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ยกระดับ Apple Vision Pro
- vivo V50 Lite สมาร์ตโฟนแบตอึด 6,500 mAh เตรียมประกาศราคาพร้อมสมาร์ตวอช Watch GT 22 เม.ย.นี้
ที่มาข้อมูล : https://newatlas.com/mobile-technology/bigme-hibreak-s-e-ink-smartphone/
ที่มารูปภาพ : Bigme
