นักวิทยาศาสตร์ในเขตป่าแอมะซอนของประเทศบราซิล ได้เปิดตัวการทดลองครั้งสำคัญ โดยใช้หอส่งสัญญาณ (towers) และเครนสูง เพื่อสูบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เข้าสู่เรือนยอดของป่าดิบชื้น เพื่อศึกษาว่าระดับคาร์บอนที่สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อป่าเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้อย่างไร
สรุปข่าว
นักวิทยาศาสตร์ในเขตป่าแอมะซอนของประเทศบราซิล ได้เปิดตัวการทดลองครั้งสำคัญ โดยใช้หอส่งสัญญาณ (towers) และเครนสูง เพื่อสูบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เข้าสู่เรือนยอดของป่าดิบชื้น เพื่อศึกษาว่าระดับคาร์บอนที่สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อป่าเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้อย่างไร
โครงการนี้มีชื่อว่า แอมะซอนเฟซ (AmazonFACE) ดำเนินการในพื้นที่ตั้งอยู่ห่างจากเมือง มาเนาส์ (Manaus) เมืองหลวงของรัฐอามาโซนัชในประเทศบราซิล เป็นเมืองสำคัญที่เป็น “ประตูสู่ป่าแอมะซอน” โดยตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำเนโกรและแม่น้ำโซลิโมยบรรจบกัน ไปทางเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร
ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่ได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันถึงร้อยละ 50 เพื่อจำลองสภาพภูมิอากาศในอนาคต จากนั้นนักวิจัยที่หย่อนกระเช้าลงมาจากเครน จะทำการเก็บข้อมูลของป่าแบบเรียลไทม์ โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการใช้น้ำ ความทนทานของใบไม้ และสุขภาพของต้นไม้
ทีมวิจัยจากสถาบันวิจัยแอมะซอนแห่งชาติของบราซิล (INPA) ระบุว่า การทดลองนี้เปรียบเสมือนการสร้าง “ไทม์แมชชีน” ซึ่งจะช่วยคาดการณ์ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์สามารถปล่อยออกมาได้ ในขณะที่ต้องควบคุมอุณหภูมิภาวะโลกร้อน ให้ไม่เกินเกณฑ์ถึงสององศา
โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเติมเต็มช่องว่างสำคัญในความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถในการปรับตัวของป่าแอมะซอนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดนโยบายบรรเทาผลกระทบและการปรับตัว
สถานที่ทดลองแห่งนี้ ยังนับว่าเป็นที่แรกในแอมะซอน ที่ใช้ปั้นจั่นหรือเครนติดตั้งแบบถาวรในการเข้าถึงยอดไม้ โดยไม่รบกวนเรือนยอด ทำให้สามารถเฝ้าติดตามต้นไม้แต่ละต้นและการตอบสนองต่อความเครียดจากสิ่งแวดล้อมได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
การค้นพบของโครงการแอมะซอนเฟซ (AmazonFACE) อาจให้สัญญาณเตือนล่วงหน้าหลายสิบปี เกี่ยวกับอนาคตของป่า เนื่องจากแอมะซอนมีบทบาทสำคัญในวัฏจักรคาร์บอนและความหลากหลายทางชีวภาพของโลก
- ช็อกโกแลตดูไบ มัทฉะ ควินัว ฟู้ดเทรนด์สุดหรูที่แอบทำลายโลก
- 5 เรื่องที่ควรรู้ เกี่ยวกับ “COP30” เวทีตัดสินอนาคตโลก
- หญิงออสซี่กว่า 40% ลังเลมีลูก! กลัวอนาคตโลกร้อนเกินจะเลี้ยงดูได้
- อุตุฯ โลกเตือนปี 2025 จะเป็น 1 ในปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
- สัญญาณโลกเดือดแรง ก่อนการประชุม COP30 คาดปี 68 อาจร้อนสุดในประวัติการณ์
ที่มาข้อมูล : reutersconnect
ที่มารูปภาพ : lss.ls.tum.de/lsai/amazonface/
