ยาน “Starliner” ประกาศเที่ยวบินถัดไป เตรียมใช้ขนส่งสินค้าแทนการส่ง “นักบินอวกาศ”

โครงการสตาร์ไลเนอร์ (Starliner) ซึ่งเคยเป็นผู้นำในการแข่งขันสร้างยานอวกาศลำใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อขนส่งสินค้าและนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศ ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงความสูญเสียทางการเงินของบริษัทที่มากกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 64,000 ล้านบาท

เดิมทีโครงการนี้มีกำหนดเริ่มให้บริการในปี 2017 แต่เที่ยวบินแรกถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2019 และยานอวกาศยังไม่ได้รับการรับรอง เนื่องจากเที่ยวบินทดสอบแต่ละเที่ยวบินประสบปัญหาสำคัญ รวมถึงปัญหาระบบขับดันของยานที่ทำให้นักบินอวกาศสองคน นั่นคือ บุช วิลมอร์ (Butch Wilmore) และซูนี วิลเลียมส์ (Suni Williams) ต้องติดอยู่บนสถานีอวกาศเป็นเวลาเกือบ 9 เดือน ในเที่ยวบินที่มีมนุษย์อวกาศเที่ยวแรกของยานสตาร์ไลน์เนอร์

สิ่งนี้ทำให้นาซาและโบอิ้งได้ตกลงร่วมกันที่จะปรับปรุงสัญญา โดยข้อตกลงฉบับใหม่ระบุว่าเที่ยวบินถัดไปของสตาร์ไลน์เนอร์ ก่อนที่จะออกเดินทางได้เร็วสุดคือเดือนเมษายนปี 2026 จะต้องผ่านการทดสอบและรับรองใหม่อย่างจริงจัง และเมื่อผ่านการรับรองแล้ว ภารกิจที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่การขนส่งนักบินอวกาศ แต่จะเป็นเพียงแค่การขนส่งสินค้าเท่านั้น 

นอกจากนี้นาซายังได้ลดจำนวนเที่ยวบินของยานสตาร์ไลน์เนอร์ ที่จะเข้าเทียบท่ากับสถานีอวกาศนานาชาติในอนาคตลงจาก 6 เที่ยวบิน เหลือเพียงแค่ 4 เที่ยวบินเท่านั้น ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินขนส่งสินค้าเที่ยวถัดไป และอาจจะกลับมาใช้ส่งลูกเรือไปยังสถานีอวกาศนานาชาติอีกครั้งเมื่อพร้อม

สำหรับยานสตาร์ไลเนอร์ หรือชื่อทางการคือ ซีเอสที-หนึ่งศูนย์ศูนย์ สตาร์ไลนเนอร์ (CST-100 Starliner) เป็นยานอวกาศแบบแคปซูลที่มีจุดประสงค์หลักคือการขนส่งนักบินอวกาศของนาซา ไปและกลับจากสถานีอวกาศ และจุดหมายปลายทางในวงโคจรต่ำของโลก (Low-Earth Orbit) 

การใช้งานยานขนส่งลำนี้ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของสหรัฐฯ ที่เปิดกว้างสู่บริการขนส่งมนุษย์ไปยังสถานีอวกาศ ISS จากบริษัทเอกชน เพื่อให้นาซาสามารถมุ่งเน้นไปยังภารกิจสำรวจห้วงอวกาศที่ไกลออกไปในอนาคต