
วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาสำนักข่าว Bloomberg รายงานกระแสข่าวบริษัท SpaceX บริษัทจรวดและดาวเทียมของอีลอน มัสก์ กำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้น และอาจทำให้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าสถิติเดิมของ OpenAI ที่มีมูลค่าสูงสุดที่ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15.93 ล้านล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังพิจารณาเสนอขายหุ้นรอง (Secondary stock sale หรือ tender offer) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิม เช่น พนักงานและนักลงทุนในช่วงแรก สามารถขายหุ้นของตนเพื่อสร้างสภาพคล่อง การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไม่ใช่การระดมทุนใหม่โดยตรงเข้าสู่บริษัท แต่เป็นการซื้อขายระหว่างนักลงทุนเดิมและนักลงทุนรายใหม่ โดยมีการหารือถึงราคาหุ้นที่สูงกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,750 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะประเมินมูลค่าของ SpaceX อยู่ที่ระหว่าง 7.5 แสนล้านถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.90 - 25.50 ล้านล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังพิจารณาเสนอขายหุ้นรอง (Secondary stock sale หรือ tender offer) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิม เช่น พนักงานและนักลงทุนในช่วงแรก สามารถขายหุ้นของตนเพื่อสร้างสภาพคล่อง การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไม่ใช่การระดมทุนใหม่โดยตรงเข้าสู่บริษัท แต่เป็นการซื้อขายระหว่างนักลงทุนเดิมและนักลงทุนรายใหม่ โดยมีการหารือถึงราคาหุ้นที่สูงกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,750 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะประเมินมูลค่าของ SpaceX อยู่ที่ระหว่าง 7.5 แสนล้านถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.90 - 25.50 ล้านล้านบาท
มูลค่ากิจการตามรายงานนี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากรอบการประเมินมูลค่าก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่หุ้นถูกขายในราคา 212 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,756 บาท ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12.75 ล้านล้านบาท การเติบโตของมูลค่าที่รวดเร็วนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Starlink ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเทียมอินเทอร์เน็ต และความคืบหน้าของโครงการ Starship
โครงการ Starlink ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก โดยคาดการณ์ว่าอาจมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 3.19 แสนล้านบาท ภายในปี 2026 และคาดว่ารายได้รวมของ SpaceX ในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.94 แสนล้านบาท
โครงการ Starlink ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก โดยคาดการณ์ว่าอาจมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 3.19 แสนล้านบาท ภายในปี 2026 และคาดว่ารายได้รวมของ SpaceX ในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.94 แสนล้านบาท
นอกเหนือจากการเสนอขายหุ้นรองแล้ว ยังมีกระแสข่าวที่ระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังตั้งเป้าที่จะเปิดขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ของทั้งบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า 2026 หรืออาจจะเร็วที่สุดในช่วงปลายปีหน้า การเสนอขายหุ้นรองในตลาดส่วนบุคคลนี้มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่นำไปสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด
หากบริษัท SpaceX สามารถทำ IPO ที่มูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.5 ล้านล้านบาท โดยขายหุ้นเพียง 5% ก็จะสามารถระดมทุนได้สูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.27 ล้านล้านบาท ซึ่งจะแซงหน้าสถิติการเสนอขายหุ้นของบริษัท Saudi Aramco ในปี 2019 และจะทำให้ SpaceX ติดอันดับ 20 บริษัทมหาชนที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวลือ IPO ของบริษัททั้งหมด แต่ผู้บริหารระดับสูงของ SpaceX ยังคงมีความระมัดระวังในการแสดงความเห็น โดยเบร็ท จอห์นสัน (Bret Johnsen) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ระบุว่าการ IPO ของบริการ Starlink นั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า และอีลอน มัสก์ เคยส่งสัญญาณว่าการ IPO ของบริการ Starlink จะเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจมีกำไรจากการดำเนินงานแล้ว
การที่บริษัทเอกชนอย่างบริษัท SpaceX มีมูลค่าสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.50 ล้านล้านบาท เป็นการบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตที่ไม่ธรรมดาของธุรกิจการบินอวกาศและการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่บริษัทเทคโนโลยีเอกชนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของตลาดสาธารณะ
สรุปข่าว
Bloomberg รายงานว่า SpaceX เตรียมเปิดขายหุ้นรองซึ่งอาจดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 8 แสนล้านดอลลาร์ (25.5 ล้านล้านบาท) แซงหน้า OpenAI ขึ้นแท่นบริษัทเอกชนมูลค่าสูงสุดในโลก การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จของ Starlink และ Starship โดยมีกระแสข่าวว่าบริษัทอาจเล็งทำ IPO เข้าตลาดหุ้นในช่วงปลายปี 2026 เพื่อระดมทุนครั้งใหญ่
วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาสำนักข่าว Bloomberg รายงานกระแสข่าวบริษัท SpaceX บริษัทจรวดและดาวเทียมของอีลอน มัสก์ กำลังเตรียมเข้าตลาดหุ้น และอาจทำให้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าสถิติเดิมของ OpenAI ที่มีมูลค่าสูงสุดที่ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15.93 ล้านล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังพิจารณาเสนอขายหุ้นรอง (Secondary stock sale หรือ tender offer) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิม เช่น พนักงานและนักลงทุนในช่วงแรก สามารถขายหุ้นของตนเพื่อสร้างสภาพคล่อง การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไม่ใช่การระดมทุนใหม่โดยตรงเข้าสู่บริษัท แต่เป็นการซื้อขายระหว่างนักลงทุนเดิมและนักลงทุนรายใหม่ โดยมีการหารือถึงราคาหุ้นที่สูงกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,750 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะประเมินมูลค่าของ SpaceX อยู่ที่ระหว่าง 7.5 แสนล้านถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.90 - 25.50 ล้านล้านบาท
รายงานข่าวระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังพิจารณาเสนอขายหุ้นรอง (Secondary stock sale หรือ tender offer) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิม เช่น พนักงานและนักลงทุนในช่วงแรก สามารถขายหุ้นของตนเพื่อสร้างสภาพคล่อง การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไม่ใช่การระดมทุนใหม่โดยตรงเข้าสู่บริษัท แต่เป็นการซื้อขายระหว่างนักลงทุนเดิมและนักลงทุนรายใหม่ โดยมีการหารือถึงราคาหุ้นที่สูงกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12,750 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะประเมินมูลค่าของ SpaceX อยู่ที่ระหว่าง 7.5 แสนล้านถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 23.90 - 25.50 ล้านล้านบาท
มูลค่ากิจการตามรายงานนี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากรอบการประเมินมูลค่าก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่หุ้นถูกขายในราคา 212 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,756 บาท ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12.75 ล้านล้านบาท การเติบโตของมูลค่าที่รวดเร็วนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Starlink ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเทียมอินเทอร์เน็ต และความคืบหน้าของโครงการ Starship
โครงการ Starlink ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก โดยคาดการณ์ว่าอาจมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 3.19 แสนล้านบาท ภายในปี 2026 และคาดว่ารายได้รวมของ SpaceX ในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.94 แสนล้านบาท
โครงการ Starlink ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้หลัก โดยคาดการณ์ว่าอาจมีรายได้ต่อปีสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 3.19 แสนล้านบาท ภายในปี 2026 และคาดว่ารายได้รวมของ SpaceX ในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.94 แสนล้านบาท
นอกเหนือจากการเสนอขายหุ้นรองแล้ว ยังมีกระแสข่าวที่ระบุว่าบริษัท SpaceX กำลังตั้งเป้าที่จะเปิดขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) ของทั้งบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า 2026 หรืออาจจะเร็วที่สุดในช่วงปลายปีหน้า การเสนอขายหุ้นรองในตลาดส่วนบุคคลนี้มักถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่นำไปสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด
หากบริษัท SpaceX สามารถทำ IPO ที่มูลค่า 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.5 ล้านล้านบาท โดยขายหุ้นเพียง 5% ก็จะสามารถระดมทุนได้สูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.27 ล้านล้านบาท ซึ่งจะแซงหน้าสถิติการเสนอขายหุ้นของบริษัท Saudi Aramco ในปี 2019 และจะทำให้ SpaceX ติดอันดับ 20 บริษัทมหาชนที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวลือ IPO ของบริษัททั้งหมด แต่ผู้บริหารระดับสูงของ SpaceX ยังคงมีความระมัดระวังในการแสดงความเห็น โดยเบร็ท จอห์นสัน (Bret Johnsen) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ระบุว่าการ IPO ของบริการ Starlink นั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า และอีลอน มัสก์ เคยส่งสัญญาณว่าการ IPO ของบริการ Starlink จะเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจมีกำไรจากการดำเนินงานแล้ว
การที่บริษัทเอกชนอย่างบริษัท SpaceX มีมูลค่าสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 25.50 ล้านล้านบาท เป็นการบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพการเติบโตที่ไม่ธรรมดาของธุรกิจการบินอวกาศและการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่บริษัทเทคโนโลยีเอกชนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของตลาดสาธารณะ
- OpenAI โดนศาลสั่งห้ามใช้คำว่า Cameo ชั่วคราว หลังเปิดตัว “Sora Cameo” แค่เดือนเดียว
- Sam Altman เผยต้นแบบฮาร์ดแวร์ AI ตัวแรกของ OpenAI เสร็จแล้ว เตรียมเปิดตัวไม่เกิน 2 ปี
- หุ้นไทยวันนี้ 24 พฤศจิกายน 2568 ปิดลดลง 1.67 จุด คาดหวังเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- เอกสารภายในเผยแซม อัลท์แมนยอมรับ OpenAI อาจกำลังเพลี่ยงพล้ำหลัง Gemini 3 Pro ทวงบัลลังก์ AI
- จรวด Super Heavy ของ SpaceX หักงอขณะทดสอบแรงดัน อาจกระทบภารกิจส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์
ที่มารูปภาพ : SpaceX
