ทีมงานสกั๊งค์เวิร์กส์ (Skunk Works) ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) สร้างความฮือฮาอีกครั้งในวงการเทคโนโลยีอาวุธ โดยได้โชว์ความสามารถของโดรนรุ่นใหม่ที่คิดและตัดสินใจได้ทันทีผ่านระบบ AI-Driven Mission Contingency Management หรือ AI/MCM ซึ่งเป็นระบบที่สามารถทำให้โดรนปรับเปลี่ยนภารกิจได้ด้วยตัวเอง เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ก่อนหน้านี้ หากปราศจากคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดรนก็เป็นเพียงเครื่องบินโลหะขนาดเล็กที่บินได้เท่านั้น แต่โดรนรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นนี้มีความสามารถในการประเมินสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทำการตัดสินใจเพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง
ระบบ AI/MCM ถูกติดตั้งในโดรนรุ่น Stalker XE Block 25 ระบบประกอบด้วยแพลตฟอร์มการบูรณาการกับปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ชื่อว่า STAR.OS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยบริษัท Lockheed Martin ออกแบบมาเพื่อให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ทั้งเก่าและใหม่ได้ เช่น STAR.OS ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันสำหรับการสื่อสาร การแบ่งปันข้อมูล และการประสานงาน โดยไม่จำกัดว่าระบบเหล่านั้นจะตั้งอยู่ในอากาศ บนพื้นดิน ในทะเล หรือในอวกาศ
แนวคิดสำคัญเบื้องหลังระบบ AI/MCM คือ ความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้ภารกิจเสร็จสมบูรณ์เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พร้อมทั้งแสดงการทำงานให้ผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์เห็น ในระหว่างการสาธิตการบินล่าสุด ระบบได้จัดการกับสถานการณ์จำลองที่ เชื้อเพลิงขัดข้อง โดยทำการถ่ายโอนภารกิจจากโดรน Stalker XE Block 25 ให้กับโดรนลำอื่นที่ชื่อ Alta X 2.0 แทน หลังจากนั้น ระบบได้แก้ไขแผนภารกิจและนำโดรน Stalker XE Block 25 กลับฐานอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ระบบ AI/MCM ยังสามารถประสานงานกับศูนย์บัญชาการและการควบคุมโดยอัตโนมัติ ตามข้อมูลจากบริษัท Lockheed Martin สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วย ลดภาระงานของผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์ได้อย่างมาก เป้าหมายสูงสุดคือการย่นระยะเวลาการตัดสินใจในระหว่างทำภารกิจ เพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โอเจ ซานเชซ (OJ Sanchez) รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Lockheed Martin Skunk Works กล่าวว่า "การสาธิตนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ AI สามารถย้ายจากห้องปฏิบัติการไปยังสนามรบได้จริง โดยส่งมอบความสามารถที่หลากหลาย ตั้งแต่การตัดสินใจแบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็วระหว่างยานพาหนะไร้คนขับข้ามสภาพแวดล้อมทางอากาศ พื้นดิน และสภาพแวดล้อมสังเคราะห์"
เขายังกล่าวเสริมว่า "การรวมการวางแผนอากาศไร้คนขับ (UAV) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ากับความสามารถของยานพาหนะภาคพื้นดินไร้คนขับ (UGV) ทำให้เรามอบความปลอดภัย ความเร็ว และความเชื่อมั่นที่นักรบต้องการเพื่อปฏิบัติการก่อนใครในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง"
สรุปข่าว
ทีมงานสกั๊งค์เวิร์กส์ (Skunk Works) ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) สร้างความฮือฮาอีกครั้งในวงการเทคโนโลยีอาวุธ โดยได้โชว์ความสามารถของโดรนรุ่นใหม่ที่คิดและตัดสินใจได้ทันทีผ่านระบบ AI-Driven Mission Contingency Management หรือ AI/MCM ซึ่งเป็นระบบที่สามารถทำให้โดรนปรับเปลี่ยนภารกิจได้ด้วยตัวเอง เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ก่อนหน้านี้ หากปราศจากคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม โดรนก็เป็นเพียงเครื่องบินโลหะขนาดเล็กที่บินได้เท่านั้น แต่โดรนรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นนี้มีความสามารถในการประเมินสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทำการตัดสินใจเพื่อให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง
ระบบ AI/MCM ถูกติดตั้งในโดรนรุ่น Stalker XE Block 25 ระบบประกอบด้วยแพลตฟอร์มการบูรณาการกับปัญญาประดิษฐ์ AI ที่ชื่อว่า STAR.OS ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยบริษัท Lockheed Martin ออกแบบมาเพื่อให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ AI สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ทั้งเก่าและใหม่ได้ เช่น STAR.OS ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันสำหรับการสื่อสาร การแบ่งปันข้อมูล และการประสานงาน โดยไม่จำกัดว่าระบบเหล่านั้นจะตั้งอยู่ในอากาศ บนพื้นดิน ในทะเล หรือในอวกาศ
แนวคิดสำคัญเบื้องหลังระบบ AI/MCM คือ ความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้ภารกิจเสร็จสมบูรณ์เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พร้อมทั้งแสดงการทำงานให้ผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์เห็น ในระหว่างการสาธิตการบินล่าสุด ระบบได้จัดการกับสถานการณ์จำลองที่ เชื้อเพลิงขัดข้อง โดยทำการถ่ายโอนภารกิจจากโดรน Stalker XE Block 25 ให้กับโดรนลำอื่นที่ชื่อ Alta X 2.0 แทน หลังจากนั้น ระบบได้แก้ไขแผนภารกิจและนำโดรน Stalker XE Block 25 กลับฐานอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ระบบ AI/MCM ยังสามารถประสานงานกับศูนย์บัญชาการและการควบคุมโดยอัตโนมัติ ตามข้อมูลจากบริษัท Lockheed Martin สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วย ลดภาระงานของผู้ควบคุมที่เป็นมนุษย์ได้อย่างมาก เป้าหมายสูงสุดคือการย่นระยะเวลาการตัดสินใจในระหว่างทำภารกิจ เพื่อให้การตัดสินใจรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โอเจ ซานเชซ (OJ Sanchez) รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Lockheed Martin Skunk Works กล่าวว่า "การสาธิตนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ AI สามารถย้ายจากห้องปฏิบัติการไปยังสนามรบได้จริง โดยส่งมอบความสามารถที่หลากหลาย ตั้งแต่การตัดสินใจแบบอัตโนมัติ ไปจนถึงการถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็วระหว่างยานพาหนะไร้คนขับข้ามสภาพแวดล้อมทางอากาศ พื้นดิน และสภาพแวดล้อมสังเคราะห์"
เขายังกล่าวเสริมว่า "การรวมการวางแผนอากาศไร้คนขับ (UAV) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ากับความสามารถของยานพาหนะภาคพื้นดินไร้คนขับ (UGV) ทำให้เรามอบความปลอดภัย ความเร็ว และความเชื่อมั่นที่นักรบต้องการเพื่อปฏิบัติการก่อนใครในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง"
- รู้จัก “Data Center Alley” ในสหรัฐฯ ขุมพลังศูนย์กลาง AI ใช้ไฟเกือบเท่านิวยอร์ก ?
- เปิดตัว Antigravity A1 โดรน 8K 360 องศา ปฏิวัติประสบการณ์เสมือนจริง
- “โดรน-แท็กซี่บินได้” ความหวังจีนติดปีกเศรษฐกิจ
- เยอรมนีสร้าง “โดรนสกัดกั้น” ยิงตาข่ายจับโดรนกลางอากาศ ใช้ AI คุมแทนคนทั้งหมด
- AI เพื่อคนอีสาน ! SCB 10X เปิดตัว Typhoon Isan โมเดลถอดเสียงเป็นข้อความภาษาอีสานตัวแรก
ที่มาข้อมูล : https://newatlas.com/military/lockheed-martin-drone-autonomous-decision-making/
ที่มารูปภาพ : Lockheed Martin
