Patreon เตรียมสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอทางเลือก แข่งขันกับ YouTube

หากพูดถึงแพลตฟอร์มเผยแพร่วิดีโอออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คงหนีไม่พ้น youTube ที่มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 2.3 พันล้านบัญชี คิดเป็น 79% ของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเลยทีเดียว

ที่มาของภาพ Techspot

 

ทว่า ช่วงหลังมานี้แพลตฟอร์มเริ่มประสบปัญหาเรื่องความเสถียรในการใช้งาน รวมถึงข้อจำกัดต่าง ๆ ที่อาจกระทบต่อรายได้ของเหล่าครีเอเตอร์ ทำให้หลายคนเริ่มมองหาแพลตฟอร์มทางเลือกที่พอจะทดแทน YouTube มากขึ้นนั่นเอง

และแพลตฟอร์มล่าสุดที่หลายคนกำลังจับตามอง คือ Patreon ซึ่งเดิมเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเหล่าศิลปิน หรือนักพัฒนาเกมสายอินดี้ที่ต้องการโชว์ผลงานของตนเองพร้อมระบบ Subscribtion กรณีที่ผู้ชมสนใจอยากนำตัวอย่างงานของนักพัฒนาเหล่านี้ไปใช้ เช่น ส่วนเสริมเกมต่าง ๆ หรือภาพจากงานศิลป์สวย ๆ สำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ

เพื่อตอบโจทย์กระแสเรียกร้องจากแฟน ๆ Patreon จึงวางแผนยกระดับแพลตฟอร์มสำหรับเผยแพร่วิดีโอคล้ายของ YouTube ขึ้นมา สามารถรองรับฟอร์แมตวิดีโอหลายรูปแบบ และเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้แก่เหล่าครีเอเตอร์มากขึ้น อย่างการทำไลฟ์สตรีมมิ่ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ควรมีให้กับเหล่าครีเอเตอร์

ที่มาของภาพ Scalefluence

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Patreon ยังไม่ได้ให้คำตอบคือ แพลตฟอร์มวิดีโอจะมีเวอร์ชันสาธารณะออกมาหรือไม่ เนื่องจากเดิมเว็บ Patreon เองเน้นระบบ Subscription เพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าเหล่าครีเอเตอร์ กรณีที่ครีเอเตอร์ทำคลิปขึ้นมาแล้วปิดไว้ไม่สามารถให้เข้าชมได้จนกว่าจะสมัครสมาชิก ก็อาจจะทำให้ผู้ชมบางกลุ่มไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก 

แต่ถ้าเปิดให้สามารถลงคลิปแบบเป็นสาธารณะได้ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแพลตฟอร์มมากขึ้น แต่นั่นหมายความว่าทาง Patreon จะต้องหาวิธีสร้างรายได้ให้กับคลิปใหม่ ๆ เช่น การเพิ่มโฆษณาเข้ามาในวิดีโอ คล้ายกับกรณีของ YouTube ด้วย

ที่มาของภาพ Masgamers

 

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะปัจจุบันแพลตฟอร์มวิดีโอสาธารณะนั้นมี YouTube เป็นเจ้าตลาดและเหล่าครีเอเตอร์เองก็ต้องแข่งขันกันมากขึ้น ในอนาคตหากมี Patreon เข้ามาเป็นตัวเลือกร่วม อาจกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางให้เหล่าครีเอเตอร์ที่อยากออกจากระบบเดิม ๆ ของ YouTube และทั้ง 2 เว็บไซต์นี้คงต้องแข่งกันเรื่องฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ครีเอเตอร์ด้วย 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก The Verge