"หลิว จงอี" ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขยับแต่ละครั้งสะเทือนแค่ไหน

"หลิว จงอี" ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขยับแต่ละครั้งสะเทือนแค่ไหน

หลิว จงอี ครองพื้นที่หน้าสื่อไทยตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการลงพื้นที่กำกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยตนเอง

และล่าสุด กำลังหารือกับพันเอกหม่องชิตตู่ ของกองกำลัง BGF เรื่องการส่งกลับจีนเทา รวมเหยื่อค้ามนุษย์ 3,900 คน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของจีน ลงพื้นที่มา 2 รอบแล้ว

ครั้งแรก คือ ช่วงปลายเดือนมกราคม เขาไปถึงแม่สอด จังหวัดตาก ในห้วงเวลาที่รัฐบาลไทย กำลังโยนไปมา ถึงการตัดไฟฟ้าที่หล่อเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดเมียวดี ที่อยู่ใต้การควบคุมของ BGF

ตอนนั้น หลิว จงอี ชู 4 ประเด็นสำคัญต่อรัฐบาลไทย คือ

  1. ขอทางการไทยตัดไฟฟ้า ตัดน้ำประปา และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมานำไปใช้
  2. ขอให้ทางการไทย เจรจากับฝ่ายกะเหรี่ยง เพื่อปล่อยตัวชายจีนที่ถูกหลอกไปทำงานกลับไทย
  3. ตั้งศูนย์ประสานงาน ไทย-จีน ที่แม่สอด
  4. จับกุมชาวจีนฐานเป็นคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนเมียนมา ซึ่งคาดว่ามากถึง 50,000 คน

หลิว จงอี กลับจีนได้ไม่นาน ข้อเสนอแรก ก็เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนข้อ 2-4 ก็ดูมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นทุกวัน

การเดินทางมาไทย ลงพื้นที่แม่สอด ของหลิว จงอี ครั้งนี้ จึงถูกมองว่า เป็นการเก็บงานจากที่เสนอรัฐบาลไทยไป 

สรุปข่าว

“หลิว จงอี” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงจีน มือปราบคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในประเทศไทย เพราะทุกย่างก้าวที่เขาขยับ การกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา ก็ดูคืบหน้ารวดเร็วและเด็ดขาด

หลิว จงอี ครองพื้นที่หน้าสื่อไทยตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการลงพื้นที่กำกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยตนเอง

และล่าสุด กำลังหารือกับพันเอกหม่องชิตตู่ ของกองกำลัง BGF เรื่องการส่งกลับจีนเทา รวมเหยื่อค้ามนุษย์ 3,900 คน

ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของจีน ลงพื้นที่มา 2 รอบแล้ว

ครั้งแรก คือ ช่วงปลายเดือนมกราคม เขาไปถึงแม่สอด จังหวัดตาก ในห้วงเวลาที่รัฐบาลไทย กำลังโยนไปมา ถึงการตัดไฟฟ้าที่หล่อเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในจังหวัดเมียวดี ที่อยู่ใต้การควบคุมของ BGF

ตอนนั้น หลิว จงอี ชู 4 ประเด็นสำคัญต่อรัฐบาลไทย คือ

  1. ขอทางการไทยตัดไฟฟ้า ตัดน้ำประปา และสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมานำไปใช้
  2. ขอให้ทางการไทย เจรจากับฝ่ายกะเหรี่ยง เพื่อปล่อยตัวชายจีนที่ถูกหลอกไปทำงานกลับไทย
  3. ตั้งศูนย์ประสานงาน ไทย-จีน ที่แม่สอด
  4. จับกุมชาวจีนฐานเป็นคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนเมียนมา ซึ่งคาดว่ามากถึง 50,000 คน

หลิว จงอี กลับจีนได้ไม่นาน ข้อเสนอแรก ก็เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนข้อ 2-4 ก็ดูมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นทุกวัน

การเดินทางมาไทย ลงพื้นที่แม่สอด ของหลิว จงอี ครั้งนี้ จึงถูกมองว่า เป็นการเก็บงานจากที่เสนอรัฐบาลไทยไป 

หลิว จงอี ตอบคำถามสื่อน้อยมาก แทบไม่ให้สัมภาษณ์ ลงพื้นที่แบบเดินเกมเร็ว ไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่ให้ผู้ใหญ่มารอรับ 

16 ก.พ. เขาเดินทางถึงไทย ตรงไปแม่สอดทันที เพื่อตรวจดูสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดรับตัวชายต่างชาติ 

นี่จะเป็นจุดที่จะส่งชาวจีนที่มีรายชื่ออยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3,900 คน ที่จีนประสานกับทางการไทย

ต่อมาอีกวัน หลิว จงอี ก็ข้ามไปฝั่งเมียนมา และเข้าหารือกับรัฐมนตรีมหาดไทยของเมียนมาทันที เพื่อติดตามมาตรการปราบจีนเทา และก็ทราบเลขทันทีว่าตอนนี้ รวบรวมตัวจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ 700 คนแล้ว จาก 3,900 คนที่หมายหัวไว้

และรอบนี้ จีนเล่นใหญ่ จะส่งเครื่องบินตรงมาแม่สอด รับคนจีนกลับไปต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่ 28 ก.พ. ถึง 4 มี.ค. 

ฝั่งเมียวดีเอง ก็มีความเคลื่อนไหว เพราะ BGF รวบรวมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งใหญ่ และส่วนใหญ่ก็ดูรู้ว่าเป็นชาวจีน

ปลายเดือนนี้ จึงเป็นที่จับตาว่า จะเกิดการไหลทะลักออกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเหยื่อค้ามนุษย์ในเมียวดี นับหมื่นคน และไทยคือทางผ่านสำคัญ 

ที่มาข้อมูล : TNN Online

ที่มารูปภาพ : China State Media