ศาลญี่ปุ่นสั่งยุบ “ลัทธิมูน” ชนวนเหตุลอบสังหาร “ชินโซ อาเบะ” แล้ว

ก่อนหน้านี้ กระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ออกมาเรียกร้องให้มีการยุบโบสถ์แห่งนี้ พร้อมกล่าวหาว่า ลัทธธิดังกล่าว หลอกล่อสาวกให้บริจาคเงินแก่โบสถ์เป็นจำนวนมาก แต่ทางโบสถ์ก็ออกมาโต้แย้งว่า การบริจาคเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมทางศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

คำตัดสินของศาลจะทำให้โบสถ์หลุดพ้นจากสถานะการยกเว้นภาษี และต้องชำระบัญชีทรัพย์สิน แต่ยังสามารถดำเนินกิจการในญี่ปุ่นต่อไปได้ โดยโบสถ์สามัคคีจะมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ เพื่อยกเลิกคำตัดสินครั้งนี้ของศาลได้ 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสืบสวน เจ้าหน้าที่พบว่า โบสถ์บีบบังคับให้สาวกต้องซื้อสินค้าราคาแพง โดยฉวยโอกาสจากการใช้ประโยชน์ของความกลัวเกี่ยวกับเรื่องความเป็นอยู่ทางจิตวิญญาณ 

พวกเขาได้สัมภาษณ์ประชาชนเกือบ 200 คน ที่เชื่อว่า พวกเขาตกเป็นเหยื่อโบสถ์สามัคคี ตั้งแต่ปี 2023 อดีตสาวกราว 200 คน เชื่อว่า พวกเขาถูกบีบบังคับให้บริจาคเงิน 

เจ้าหน้าที่พบด้วยว่า อาเบะ และสมาชิกผู้แทนราษฎรฝ่ายอนุรักษ์นิยมหลายคน มีความใกล้ชิดกับนิกายนี้ จนทำให้รัฐมนตรีต้องลาออกถึง 4 คน 

นอกจากนี้ จากการสอบสวนภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ LPD ของอดีตนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ พบว่า สมาชิกรัฐสภา 179 คนจาก 379 คน มีความสัมพันธ์กับโบสถ์สามัคคี ซึ่งมีตั้งแต่การเข้าร่วมกิจกรรมของโบสถ์, การรับเงินบริจาค ไปจนถึงรับการสนับสนุนการเลือกตั้ง 

ทั้งนี้ จุดกำเนิดของโบสถ์สามัคคี เริ่มต้นมาจากประเทศเกาหลีใต้ แล้วเขามาก่อตั้งที่ญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1960 โดยชื่อ “มูนีส์” ได้มาจากชื่อของผู้ก่อตั้ง คือ “ซัน มยอง มูน” และก่อนที่จะเกิดเหตุลอบสังหารอาเบะ ก็มีการถกเถียงเกี่ยวกับกิจกรรมของโบสถ์แห่งนี้มาอย่างยาวนาน

พวกเขา มักจะสอนว่า การแต่งงานเป็นศูนย์กลางของความอยู่รอดทางจิตวิญญาณ และเคยมีการจัดงานแต่งหลายพันคู่ในวันเดียวกัน 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 

https://www.bbc.com/news/articles/cge1lr7225yo