วิกฤตแม่น้ำกก ต้นตอจาก เหมืองแรร์เอิร์ธ เมียนมาสุดอันตรายที่ใครๆก็อยากได้มาครอง

วิกฤตแม่น้ำกก ต้นตอจาก เหมืองแรร์เอิร์ธ เมียนมาสุดอันตรายที่ใครๆก็อยากได้มาครอง

สรุปสถานการณ์ แม่น้ำกก กำลังวิกฤตจากสายน้ำแห่งชีวิต กำลังจะกลายเป็นสายน้ำมรณะ  เป็นที่ถกเถียงว่าต้นตอนั้นมาจาก เหมืองแร่ แรร์เอิร์ธ  ในเมียนมา ใช่หรือไม่? แร่ที่ประเทศมหาอำนาจต้องการ ประหนึ่งไวเบรเนียมในอเวนเจอร์ส คำถามคือ ทำไมพวกเขาไม่ทำในประเทศตัวเอง?  เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง

แม่น้ำกก - แม่น้ำแห่งชีวิต

แม่น้ำกก แม่น้ำสายสำคัญของ 2 ประเทศ แต่ต้นน้ำอยู่ที่รัฐฉานของเมียนมา ไหลเข้าไทย ทาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้าสู่ อ.เมืองเชียงราย ระยะทาง 145 กิโลเมตร ก่อนไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ด้วยระยะทางที่ทอดยาวจึงไม่แปลกที่จะถูกขนานนามว่าเป็นสายน้ำแห่งชีวิต  ที่เลี้ยงดูผู้คน 2 ฟากฝั่ง และนอกจากเป็นแหล่งอาหาร ยังถักทอสายใยวัฒนธรรมของผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้  อยู่อาศัย ใช้ชีวิต ประกอบพิธีกรรม  จับปลาสร้างรายได้  และยังเป็นที่อยู่อาศัยของ ปลากว่า 70 ชนิด นากแม่น้ำกก แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นศูนย์รวมระบบนิเวศน์ที่มีความอุดมสมบูรณ์  สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวระหว่าง คน ป่าและสัตว์ อย่างลงตัวมาช้านาน

แต่วันนี้แม่น้ำกก กำลังเปลี่ยนไป ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะยอมไม่ได้
และล่าสุดตรวจพบ แม่น้ำกก ปนเปื้อน สารพิษ ทั้งสารหนูและโลหะหนัก เกินค่ามาตรฐาน
 
สถานการณ์นับแต่ต้นปี 2568 การปนเปื้อนของแม่น้ำกก ทวีความรุนแรงขึ้น อย่างที่ชาวลุ่มน้ำกก มองด้วยตาเนื้อก็รู้ว่า แม่น้ำที่เปรียบเสมือนบ้านของพวกเขานั้นไม่เหมือนเดิม แทบไม่ต้องพึ่งภาพถ่ายดาวเทียม ก็สัมผัสได้ เพราะคลุกคลีมาหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านลงไปหาปลาแล้วมีอาการคัน  นำเรือออกไปหาปลาไม่ได้ ขาดรายได้ เมื่อข่าวหลุดรอดไป ชาวบ้านหลายยคนเริ่มไม่กล้าใช้น้ำ อุปโภค บริโภค แม้แต่ทำการเกษตร เพราะน้ำมีสีขุ่น นิ่ง ไม่เหมือนเดิม  

ทนไม่ไหวชาวบ้านร้องขอให้ตรวจสอบน้ำ
เพราะสถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อยๆ ไร้คำชี้แจงจากภาครัฐ มี.ค. 2568  ชาวบ้านทนไม่ไหว เพราะเชื่อว่า น่าจะมีการทำเหมืองตอนเหนือของแม่น้ำกก ในเมียนมา จึงไปร้องเรียนให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำ หลังกรมประมง สุ่มตรวจน้ำ จ.เชียงราย และ  จ.เชียงใหม่ 3 จุด 
สรุปว่า ทั้งสามจุดมี สารหนูในแม่น้ำกก  เกินค่ามาตรฐานจริง จนปีนี้ชาวบ้านลุ่มน้ำกก ไม่สามารถจัดงานสงกรานต์ได้ ขนาดที่ว่า อบต.ต้องติดป้ายห้ามเล่นน้ำแม่น้ำกก เนื่องจากสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป และ เป็นอันตรายต่อการลงเล่นหรือบริโภค  แต่กระนั้นก็ยังไร้มาตรการตรวจสอบอย่างจริงจัง ถึงต้นตอสารพิษในแม่น้ำจากภาครัฐ และ คำชี้แจงว่า ปลาในแม่น้ำนั้น สามารถบริโภคได้หรือไม่?

ชาวบ้านผวา พบปลามีตุ่ม แต่กรมประมงบอก ภาพเก่าปี 67
เดือน เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา เพจสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้แชร์ภาพ พบปลาในลักษณะแปลกๆ เป็นตุ่มๆ  ผิดปกติ ขึ้นตามหนวด และ หัว ในสภาพน่ากลัว ทำชาวบ้านก็เริ่มไม่กล้ากิน ปลาน้ำจืด ปลาคัง ปลาแค้ ปลากด จนทำให้ปลาราคาตก  ขายไม่ได้  แม่ค้าปลาเศร้า ประมงจังหวัดขาดรายได้

แต่จากการตรวจสอบจากกรมประมง ชี้แจงว่า ภาพที่แชร์กันนั้น เป็นภาพเก่า ปี 67 ปัจจุบันจากการสุ่มตรวจปลาในแม่น้ำกก ยังไม่พบว่ามีปลาเป็นตุ่มลักษณะดังกล่าว และ ยังยืนยันว่าจากการตรวจสารพิษในเนื้อปลา พบว่ายังมีสารหนู ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน รับประทานได้

ก่อนที่ภายหลังจะมีข้อมูลทางวิชาการเปิดเผยให้ได้ทราบว่า ปลามีตุ่มเพราะปลาป่วยติดเชื้อปรสิต แต่นักวิชาการชี้ สาเหตุที่แท้จริง คือ มีอะไรไปทำให้  ปลาอ่อนแอ  ตางหาก โดย ดร.นณณ์ นักวิชาการอิสระด้านระบบนิเวศน์ บอกว่า ปลาเป็นตุ่มนั่นคือการติดเชื้อรอบสอง จึงทำให้ปลาแค้ นักล่าชั้นสูงบนห่วงโซ่อาหารเกิดตุ่มได้ แต่ที่ทำให้มันเกิดตุ่มได้ มันต้องถูกทำให้ร่างกายอ่อนแอก่อน  ซึ่งต้องไปหาสาเหตุว่าเพราะอะไรจึงทำให้พวกปลาเหล่านี้ อ่อนแอ  จนสามารถติดเชื้อปรสิตในธรรมชาติได้ง่าย

ก่อนที่ล่าสุด เพจสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้โพสต์ภาพเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าปลาเป็นตุ่ม เป็นสถานการณ์จริงในปี 68 
และเจอปลาลักษณะแบบนี้ได้มากขึ้น ทั้งน้ำกก น้ำโขง และ ลำน้ำสาขา จนชาวบ้านสัณนิฐานว่า เป็นเพราะปลา 
ได้รับสารหนู สารโลหะหนักในน้ำ มากเกินค่ามาตรฐานหรือไม่? และ เป็นเพราะ การทำเหมืองในเมียนมาจริงหรือเปล่า? 


 

สรุปข่าว

แม่น้ำกกกำลังเผชิญวิกฤตรุนแรง หลังตรวจพบสารพิษและโลหะหนักปนเปื้อนทั้งในน้ำและดิน ครอบคลุมพื้นที่เชียงราย–เชียงใหม่ สร้างผลกระทบต่อปลาที่มีตุ่ม ช้างที่ผิวพุพอง และชาวบ้านที่ไม่สามารถใช้น้ำได้ตามปกติ ต้นตอถูกตั้งข้อสงสัยว่าเชื่อมโยงกับเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นแร่หายากที่ชาติมหาอำนาจต้องการ แต่กระบวนการสกัดกลับสร้างมลพิษอย่างรุนแรง ทำให้คนไทยต้องแบกรับผลกระทบจากทรัพยากรที่ตัวเองไม่ได้ใช้

สรุปสถานการณ์ แม่น้ำกก กำลังวิกฤตจากสายน้ำแห่งชีวิต กำลังจะกลายเป็นสายน้ำมรณะ  เป็นที่ถกเถียงว่าต้นตอนั้นมาจาก เหมืองแร่ แรร์เอิร์ธ  ในเมียนมา ใช่หรือไม่? แร่ที่ประเทศมหาอำนาจต้องการ ประหนึ่งไวเบรเนียมในอเวนเจอร์ส คำถามคือ ทำไมพวกเขาไม่ทำในประเทศตัวเอง?  เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง

แม่น้ำกก - แม่น้ำแห่งชีวิต

แม่น้ำกก แม่น้ำสายสำคัญของ 2 ประเทศ แต่ต้นน้ำอยู่ที่รัฐฉานของเมียนมา ไหลเข้าไทย ทาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เข้าสู่ อ.เมืองเชียงราย ระยะทาง 145 กิโลเมตร ก่อนไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน ด้วยระยะทางที่ทอดยาวจึงไม่แปลกที่จะถูกขนานนามว่าเป็นสายน้ำแห่งชีวิต  ที่เลี้ยงดูผู้คน 2 ฟากฝั่ง และนอกจากเป็นแหล่งอาหาร ยังถักทอสายใยวัฒนธรรมของผู้คนหลายกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้  อยู่อาศัย ใช้ชีวิต ประกอบพิธีกรรม  จับปลาสร้างรายได้  และยังเป็นที่อยู่อาศัยของ ปลากว่า 70 ชนิด นากแม่น้ำกก แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นศูนย์รวมระบบนิเวศน์ที่มีความอุดมสมบูรณ์  สะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวระหว่าง คน ป่าและสัตว์ อย่างลงตัวมาช้านาน

แต่วันนี้แม่น้ำกก กำลังเปลี่ยนไป ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะยอมไม่ได้
และล่าสุดตรวจพบ แม่น้ำกก ปนเปื้อน สารพิษ ทั้งสารหนูและโลหะหนัก เกินค่ามาตรฐาน
 
สถานการณ์นับแต่ต้นปี 2568 การปนเปื้อนของแม่น้ำกก ทวีความรุนแรงขึ้น อย่างที่ชาวลุ่มน้ำกก มองด้วยตาเนื้อก็รู้ว่า แม่น้ำที่เปรียบเสมือนบ้านของพวกเขานั้นไม่เหมือนเดิม แทบไม่ต้องพึ่งภาพถ่ายดาวเทียม ก็สัมผัสได้ เพราะคลุกคลีมาหลายชั่วอายุคน ชาวบ้านลงไปหาปลาแล้วมีอาการคัน  นำเรือออกไปหาปลาไม่ได้ ขาดรายได้ เมื่อข่าวหลุดรอดไป ชาวบ้านหลายยคนเริ่มไม่กล้าใช้น้ำ อุปโภค บริโภค แม้แต่ทำการเกษตร เพราะน้ำมีสีขุ่น นิ่ง ไม่เหมือนเดิม  

ทนไม่ไหวชาวบ้านร้องขอให้ตรวจสอบน้ำ
เพราะสถานการณ์ที่แย่ลงเรื่อยๆ ไร้คำชี้แจงจากภาครัฐ มี.ค. 2568  ชาวบ้านทนไม่ไหว เพราะเชื่อว่า น่าจะมีการทำเหมืองตอนเหนือของแม่น้ำกก ในเมียนมา จึงไปร้องเรียนให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำ หลังกรมประมง สุ่มตรวจน้ำ จ.เชียงราย และ  จ.เชียงใหม่ 3 จุด 
สรุปว่า ทั้งสามจุดมี สารหนูในแม่น้ำกก  เกินค่ามาตรฐานจริง จนปีนี้ชาวบ้านลุ่มน้ำกก ไม่สามารถจัดงานสงกรานต์ได้ ขนาดที่ว่า อบต.ต้องติดป้ายห้ามเล่นน้ำแม่น้ำกก เนื่องจากสภาพน้ำที่เปลี่ยนแปลงไป และ เป็นอันตรายต่อการลงเล่นหรือบริโภค  แต่กระนั้นก็ยังไร้มาตรการตรวจสอบอย่างจริงจัง ถึงต้นตอสารพิษในแม่น้ำจากภาครัฐ และ คำชี้แจงว่า ปลาในแม่น้ำนั้น สามารถบริโภคได้หรือไม่?

ชาวบ้านผวา พบปลามีตุ่ม แต่กรมประมงบอก ภาพเก่าปี 67
เดือน เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา เพจสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้แชร์ภาพ พบปลาในลักษณะแปลกๆ เป็นตุ่มๆ  ผิดปกติ ขึ้นตามหนวด และ หัว ในสภาพน่ากลัว ทำชาวบ้านก็เริ่มไม่กล้ากิน ปลาน้ำจืด ปลาคัง ปลาแค้ ปลากด จนทำให้ปลาราคาตก  ขายไม่ได้  แม่ค้าปลาเศร้า ประมงจังหวัดขาดรายได้

แต่จากการตรวจสอบจากกรมประมง ชี้แจงว่า ภาพที่แชร์กันนั้น เป็นภาพเก่า ปี 67 ปัจจุบันจากการสุ่มตรวจปลาในแม่น้ำกก ยังไม่พบว่ามีปลาเป็นตุ่มลักษณะดังกล่าว และ ยังยืนยันว่าจากการตรวจสารพิษในเนื้อปลา พบว่ายังมีสารหนู ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน รับประทานได้

ก่อนที่ภายหลังจะมีข้อมูลทางวิชาการเปิดเผยให้ได้ทราบว่า ปลามีตุ่มเพราะปลาป่วยติดเชื้อปรสิต แต่นักวิชาการชี้ สาเหตุที่แท้จริง คือ มีอะไรไปทำให้  ปลาอ่อนแอ  ตางหาก โดย ดร.นณณ์ นักวิชาการอิสระด้านระบบนิเวศน์ บอกว่า ปลาเป็นตุ่มนั่นคือการติดเชื้อรอบสอง จึงทำให้ปลาแค้ นักล่าชั้นสูงบนห่วงโซ่อาหารเกิดตุ่มได้ แต่ที่ทำให้มันเกิดตุ่มได้ มันต้องถูกทำให้ร่างกายอ่อนแอก่อน  ซึ่งต้องไปหาสาเหตุว่าเพราะอะไรจึงทำให้พวกปลาเหล่านี้ อ่อนแอ  จนสามารถติดเชื้อปรสิตในธรรมชาติได้ง่าย

ก่อนที่ล่าสุด เพจสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้โพสต์ภาพเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าปลาเป็นตุ่ม เป็นสถานการณ์จริงในปี 68 
และเจอปลาลักษณะแบบนี้ได้มากขึ้น ทั้งน้ำกก น้ำโขง และ ลำน้ำสาขา จนชาวบ้านสัณนิฐานว่า เป็นเพราะปลา 
ได้รับสารหนู สารโลหะหนักในน้ำ มากเกินค่ามาตรฐานหรือไม่? และ เป็นเพราะ การทำเหมืองในเมียนมาจริงหรือเปล่า? 


 

ไม่ใช่แค่ปลา  แม้แต่ช้างก็ได้รับผลกระทบแล้ว

ปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร  อ.เมือง จ.เชียงราย ทั้งตัวควาญช้างและช้าง ต่างได้รับผลกระทบแล้ว หลังนำช้างไปอาบน้ำที่ลำน้ำกก พบช้างขึ้นมามีผืนและตุ่มใสรอบตัว กลายเป็นแผลผุพอง 
แม้แต่ควาญช้างก็แผลในลักษณะเดียวกัน ตอนนี้ลำบากมาก ทั้งการเลี้ยงช้าง   และ รายได้ พราะนักท่องเที่ยวหดหาย 

ล่าสุด The Reporter รายงานว่า จากการสุ่มตรวจคุณภาพผิวดิน ตะกอนดิน บริเวณลำน้ำกก 8 จุด ทั้งเชียงราย เชียงใหม่  พบมีสารหนูและโลหะหนัก เกินค่ามาตรฐานจริง  นักวิชาการชี้ อันตรายต่อสุขภาพ เป็นห่วงชาวบ้าน หากกินปลาทุกวันเพราะสารพิษอาจสะสมในปลาไปแล้ว ถ้าตะกอนดินมีสารพิษขนาดนี้ อาจทำให้ชาวบ้านเกิดโรคต่างๆได้ เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า , เป็นไข้ดำ: ผิวหนังหนา และสีเข้ม , มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ได้ 

นักวิชาการชี้ ต้นตอที่ฆ่าแม่น้ำกก อยู่ณ ขณะนี้  คือ เหมืองแร่แรร์เอิร์ธ ในประเทศเมียนมา เพราะภาพถ่ายดาวเทียมไม่โกหก! 
เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ  ยืนยันกับ Thai PBS ว่า เหมืองแร่แรร์เอิร์ธ ในเมียนมา ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำกก  ที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยจริงๆ 
หลังเธอเห็นภาพถ่ายดาวเทียม การขุดเจาะทำเหมือง  บริเวณต้นแม่น้ำกก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา  ห่างจากชายแดนไทย 20 กิโลเมตร  แต่ห่างจากแม่น้ำกกเพียง 2-3 กิโลเมตร เท่านั้น 
อดคล้องกับข้อมูลจิสด้า  เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมพบว่ามีการเปิดหน้าดิน จำนวนมากในเมียนมา บริเวณต้นแม่น้ำกก 

เธอย้ำว่าเรื่องนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงและรัฐบาลไทยต้องเป็นผู้จัดการเจรจาจริงจัง เนื่องจากการทำเหมืองแรร์เอิร์ธ อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มว้า ซึ่งรัฐบาลเมียนมาก็ไม่มีอำนาจพอ
แต่หากปล่อยไว้คนลุ่มแม่น้ำจะไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว

เหมืองแรร์เอิร์ธ - ทำไมจึงเป็นการทำเหมืองที่อันตรายที่สุดในโลก ? 
แร่แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ธาตุหายาก ที่มีในธรรมชาติ ประกอบด้วยธาตุโลหะ 17 ชนิด มักถูกนำไปใช้ในการผลิตเทคโนโลยีขั้นสู เช่น สมาร์ตโฟน รถEV  กังหันลม
แร่ชนิดนี้จึงเป็นที่ต้องการของชาติมหาอำนาจอย่างมาก  เหมือนแร่ไวเบรเนียม ของยูกันด้าใน AVENGER  แต่พวกเขามักไม่ทำเอง เพราะรู้ดีว่า มันไม่คุ้มค่า  ที่ต้องแลกกับระบบนิเวศน์ที่เสื่อมโทรม เพราะการทำเหมืองแรร์เอิรธ มีวิธีการทำที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมและซับซ้อนมาก ต้องฉีดกรดเข้าไปในภูเขา  เพื่อสกัดแร่ธาตุหายากออกมา 

และแน่นอนว่าสารเคมีและโลหะหนักเหล่านี้ สามารถไหลมาปนเปื้อนในแหล่งน้ำและดินตามธรรมชาติได้  ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยและระบบนิเวศน์ป่าไม้ อย่างร้ายแรง ซ้ำกากแร่ที่เหลือมักมีสารพิษและสารกัมมันตรังสีตกค้าง  หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม จะทำอันตรายต่อทุกๆชีวิตที่แตะต้องหรือสัมผัส สิ่งปนเปื้อนตามธรรมชาติ

เราจะร่วมกันแก้ไขยังไงดี?
ล่าสุด นายกรัฐมนตรี อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ได้มอบหมายด่วน ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลปัญหาเมียนมาขุดเหมืองแล้ว รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศไทย สั่งให้สถานทูตไทยในย่างกุ้ง ประสานรัฐบาลเมียนมา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่

และการกดดันจากภาคประชาสังคม โดย เพจสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เตรียมจัดกิจกรรม 5 มิ.ย. ยื่นข้อเรียกร้อง ต่อสถานเอกอัคราชทูตจีน และ เมียนมาประจำประเทศไทย
และติดตาม ‘ข้อเสนอการแก้ไขปัญหาแม่น้ำกก 7 ข้อ’  ที่ได้ยื่นต่อรัฐบาลไปแล้ว  เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา 

ปัญหาคือ ประเทศไทยไม่ได้ทำ แต่คนไทยต้องรับกรรม ที่เราไม่ได้ก่อ? 
แต่เพราะแม่น้ำกก คือแม่น้ำที่ใช้ร่วมกัน 2 ประเทศ ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งเปิดการเจรจา 4 ฝ่ายไทย เมียนม่า กลุ่มกองลังชาติพันธุ์ และ จีน เพื่อเร่งหามาตรการควบคุมมลพิษ ตามกฎหมายหรืออนุสัญญาสิ่งแวดล้อมระดับสากล เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อม  มันกระทบทุกชีวิต และมันคงรอไม่ได้ เพราะหากถูกทำลายไปแล้ว มันคงไม่มีวันอุดมสมบูรณ์ได้ดังเดิม  


ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ : freepik