เป็นเวลากว่า 50 ปี ที่นกฟลามิงโกเล็ก มีถิ่นที่อยู่พิเศษ เพื่อใช้สำหรับการวางไข่ และใช้ชีวิตอยู่ในทวีปแอฟริกาเพียง 4 แห่งเท่านั้น นั่นคือ บอตสวานา นามิเบีย แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้
แต่ตอนนี้ น้ำเสียสกปรกที่ไหลเข้าสู่เขื่อนคัมเฟอร์ส ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของนกฟลามิงโกชนิดนี้ กลับปนเปื้อนไปด้วยมลพิษมากเกินไป จนอันตรายต่อกลุ่มนกเหล่านี้อย่างมาก ทำให้ฟลามิงโกหายไปจากพื้นที่บริเวณนี้
สรุปข่าว
เป็นเวลากว่า 50 ปี ที่นกฟลามิงโกเล็ก มีถิ่นที่อยู่พิเศษ เพื่อใช้สำหรับการวางไข่ และใช้ชีวิตอยู่ในทวีปแอฟริกาเพียง 4 แห่งเท่านั้น นั่นคือ บอตสวานา นามิเบีย แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้
แต่ตอนนี้ น้ำเสียสกปรกที่ไหลเข้าสู่เขื่อนคัมเฟอร์ส ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำคัญของนกฟลามิงโกชนิดนี้ กลับปนเปื้อนไปด้วยมลพิษมากเกินไป จนอันตรายต่อกลุ่มนกเหล่านี้อย่างมาก ทำให้ฟลามิงโกหายไปจากพื้นที่บริเวณนี้
ย้อนไปเมื่อปี 2020 ประชากรนกฟลามิงโกที่อาศัยอยู่ที่นี่มีจำนวนทั้งหมด 70,000 ตัว และมีลูกนกเกิดใหม่ประมาณ 5,000 ตัวในแต่ละฤดูกาล แต่น้ำที่เน่าเสียในเขื่อน เต็มไปด้วยตะกอนสีเขียว ส่งผลให้ปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวไปเยือนที่แห่งนี้ กลับไม่พบนกฟลามิงโกสักตัวเดียว
นกฟลามิงโก เป็นสัตว์ที่กินเยอะมาก และมันจะกินเพียงแค่สาหร่ายชนิดพิเศษ อย่าง สาหร่ายสไปรูลินา ที่พบได้ในทะเลสาบน้ำเค็มตื้นเท่านั้น พวกมันจะขยายพันธุ์บนพื้นที่ที่ปลอดภัย ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่ง และเมื่อน้ำในเขื่อนคัมเฟอร์สถูกทำลาย แหล่งเพาะพันธุ์ของพวกมันจึงเหลือเพียงแค่ 3 แห่งในแอฟริกา
ผู้เชี่ยวชาญ เผยว่า สถานการณ์นี้ เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักอย่างจริงจัง เพราะจำนวนประชากรฟลามิงโกลดลง และพวกมันอาจถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “สัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์” ในไม่ช้า
ทั้งนี้ โลกเรามีนกฟลามิงโกประมาณ 2-3 ล้านตัว ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแถบแอฟริกา และบางส่วนอาศัยในเอเชียใต้
รัฐบาลท้องถิ่น เผยว่า พวกเขาจำเป็นต้องใช้งบประมาณราว 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแก้ปัญหาระบบน้ำเสียที่เกิดขึ้น แต่มีเงินไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกัน ปัญหามลพิษก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ นกต่างก็หนีหายไปจากพื้นที่ ไม่ใช่แค่จากเขื่อนคัมเฟอร์สเท่านั้น แต่ยังห่างจากแหล่งเพาะพันธุ์ในภูมิภาคนี้ด้วย หากไม่แก้ปัญหาให้ทันท่วงที เราอาจจะไม่ได้เห็นฟลามิงโกอีกในอนาคต
ที่มาข้อมูล : Reuters
ที่มารูปภาพ : Pixabay handout via Canva
