
การพบปะกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ ที่ควรจะเป็นการพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน หลังจากที่ทรัมป์กล่าวหาแอฟริกาใต้ว่ามีการกดขี่และเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อยที่เป็นคนผิวขาว หรือที่เรียกว่า “แอฟริกาเนอร์” ทำให้สหรัฐฯ ตัดสินใจรับผู้ลี้ภัยจากแอฟริกาใต้ที่เป็นคนผิวขาว เกือบ 60 คน มาที่สหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้แอฟริกาใต้รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก และการพบปะกันในวันนี้ระหว่างทรัมป์ กับรามาโฟซา มีขึ้นเพื่อปรับความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่กลายเป็นว่าบรรยากาศการพูดคุยกลับตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่ทรัมป์ ได้นำคลิปวิดีโอความยาว 4 นาที ที่เป็นภาพนักการเมืองผิวดำในแอฟริกาใต้เรียกร้องให้มีการเลือกปฏิบัติต่อคนผิวขาว รวมทั้งมีภาพจุดที่อ้างว่าใช้เป็นจุดฝังคนผิวขาวที่ถูกเข่นฆ่า ซึ่งเป็นการเปิดคลิปที่เซอร์ไพร์สรามาโฟซา แต่หลังจากดูวิดีโอจบ เขาพยายามอธิบายกับทรัมป์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้สะท้อนนโยบายของรัฐบาลแอฟริกาใต้ และคลิปบางส่วนในวิดีโอ ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ด้วย
ที่ผ่านมา มีข่าวลือเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวในแอฟริกาใต้ ซึ่ง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่มาจากแอฟริกาใต้ ก็เคยพูดว่าคนผิวขาวในแอฟริกาใต้ถูกกดขี่และเลือกปฏิบัติ แต่นักวิเคราะห์บอกว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคนผิวขาวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแอฟริกาใต้ และรามาโฟซาก็ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง
สรุปข่าว
การพบปะกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ ที่ควรจะเป็นการพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกัน หลังจากที่ทรัมป์กล่าวหาแอฟริกาใต้ว่ามีการกดขี่และเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อยที่เป็นคนผิวขาว หรือที่เรียกว่า “แอฟริกาเนอร์” ทำให้สหรัฐฯ ตัดสินใจรับผู้ลี้ภัยจากแอฟริกาใต้ที่เป็นคนผิวขาว เกือบ 60 คน มาที่สหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้แอฟริกาใต้รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก และการพบปะกันในวันนี้ระหว่างทรัมป์ กับรามาโฟซา มีขึ้นเพื่อปรับความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่กลายเป็นว่าบรรยากาศการพูดคุยกลับตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่ทรัมป์ ได้นำคลิปวิดีโอความยาว 4 นาที ที่เป็นภาพนักการเมืองผิวดำในแอฟริกาใต้เรียกร้องให้มีการเลือกปฏิบัติต่อคนผิวขาว รวมทั้งมีภาพจุดที่อ้างว่าใช้เป็นจุดฝังคนผิวขาวที่ถูกเข่นฆ่า ซึ่งเป็นการเปิดคลิปที่เซอร์ไพร์สรามาโฟซา แต่หลังจากดูวิดีโอจบ เขาพยายามอธิบายกับทรัมป์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้สะท้อนนโยบายของรัฐบาลแอฟริกาใต้ และคลิปบางส่วนในวิดีโอ ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ด้วย
ที่ผ่านมา มีข่าวลือเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวในแอฟริกาใต้ ซึ่ง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่มาจากแอฟริกาใต้ ก็เคยพูดว่าคนผิวขาวในแอฟริกาใต้ถูกกดขี่และเลือกปฏิบัติ แต่นักวิเคราะห์บอกว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคนผิวขาวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแอฟริกาใต้ และรามาโฟซาก็ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง
การพูดคุยระหว่างทรัมป์กับรามาโฟซา ในตอนแรกเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งอยู่ ๆ ทรัมป์ก็สั่งให้หรี่ไฟและเปิดคลิปวิดีโอดังกล่าวให้รามาโฟซาดู บรรยากาศการพูดคุยก็เปลี่ยนไปในทันที โดยทรัมป์ยังกล่าวหาแอฟริกาใต้ว่ามีการบุกยึดพื้นที่ของคนผิวขาว และเวลาที่คนผิวขาวถูกฆ่า ก็แทบไม่เคยจับใครมาลงโทษได้เลย ซึ่งรามาโฟซาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง รามาโฟซายอมรับว่าในแอฟริกาใต้ เกิดเหตุฆาตกรรมบ่อยครั้ง แต่คนที่เสียชีวิตก็มีทั้งคนผิวดำและคนผิวขาว และหากดูสถิติแล้ว คนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ
ในระหว่างการพูดคุยจะเห็นได้ว่าทรัมป์ พยายามที่จะยั่วให้รามาโฟซาโต้เถียงด้วย แต่รามาโฟซาพยายามที่จะใจเย็น และตอบโต้กลับทรัมป์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่ นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการพบปะกันครั้งนี้ ทรัมป์วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าจะทำให้รามาโฟซาขายหน้าต่อหน้านักข่าว เหมือนกับที่เขาเคยทำตอนพบปะกับ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
- รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องเอเชียเพิ่มงบประมาณกลาโหมรับมือความมั่นคงอินโด-แปซิฟิก
- ไบเดนปรากฏตัวครั้งแรกหลังป่วยมะเร็ง เผยเข้ารับการบำบัดแล้วกำลังใจดีเยี่ยม
- ทรัมป์ลุยเพิ่มภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม 50% หวังดันอุตสาหกรรมในประเทศ
- "ทรัมป์" ชื่นชม "อีลอน มัสก์" ย้ำมัสก์ไม่ได้ลาขาดจาก DOGE จะกลับมาเป็นพัก ๆ
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์
- วิกฤตหนี้สหรัฐฯ "36 ล้านล้านเหรียญ" ที่ "ทรัมป์" ต้องแบกหลังแอ่น
- ขุนคลังสหรัฐเผยเจรจา "สหรัฐฯ-จีน" สะดุด แนะผู้นำ 2 ชาติ "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" โทรคุยตรง
