งิ้วแต้จิ๋วปลุกศีลธรรมกลางมหานคร เชื่อมหัวใจไทย–จีน

หญิงผู้บริสุทธิ์กับศาลที่กล้าพิพากษา

คืนวันที่ 12 กรกฎาคม เรื่อง “กตัญญูสู้อยุติธรรม” กล่าวถึงหญิงสาวที่ถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรฆ่าแม่สามี แม้หลักฐานจะไม่เป็นธรรม แต่สุดท้ายความจริงปรากฏ และผู้พิพากษากล้าตัดสินลงโทษลูกขุนนางผู้มีอิทธิพล การแสดงเรื่องนี้เรียบง่ายแต่เข้มข้น ย้ำคุณค่าของการมีระบบยุติธรรมที่ไม่สั่นคลอนต่ออำนาจ เป็นคำถามที่ยังคงมีน้ำหนักในสังคมไทยปัจจุบัน

ความกตัญญูที่เปลี่ยนโลกหลังความตาย

ในวันที่ 13 กรกฎาคม เรื่อง “พระโมคคัลลานะโปรดมารดา” ใช้การเล่าเรื่องแบบเชิงพุทธมาสื่อถึงพลังของความกตัญญูที่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมได้ แม้แม่ของพระโมคคัลลานะจะทำกรรมหนัก แต่ลูกชายก็เดินทางสู่ยมโลกเพื่อช่วยเธอพ้นจากบาป เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าศีลธรรมไม่ใช่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ หากเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างคนในครอบครัว และเปลี่ยนใจคนได้ แม้กระทั่งยมทูต

สงคราม ความรัก และการยอมถอยเพื่อประเทศ

วันที่ 14 กรกฎาคม “องค์หญิงโป๊ยป้อและเต็กเช็ง” กลายเป็นเวทีที่ถ่ายทอดความรักซ้อนกับการเมือง เมื่อแม่ทัพหนุ่มต้องเลือกระหว่างหัวใจกับหน้าที่ ผลลัพธ์คือการยอมถอยจากการแต่งงานกับองค์หญิง เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามระหว่างแคว้น แม้ความรักจะสูญหาย แต่ประเทศชาติรอดพ้นจากความขัดแย้ง แก่นของเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เน้นการเสียสละ ยังสะท้อนภาพการไกล่เกลี่ยและการประนีประนอมซึ่งเป็นหัวใจของสันติภาพ

หลากรสเรื่องเล่าที่มีหัวใจเดียวกัน

ค่ำวันที่ 15 กรกฎาคม งิ้วรวมไฮไลต์ 10 เรื่องถูกจัดแสดงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องรักต้องห้าม การผิดใจกันในครอบครัว ความเข้าใจผิดที่นำไปสู่การต่อสู้ ไปจนถึงการให้อภัยและกลับมารวมใจอีกครั้ง เรื่องอย่าง “สารโยงสายใย” และ “เปาบุ้นจิ้นขอขมา” ล้วนแต่มีโครงเรื่องที่เรียบง่าย แต่กลับกระทบใจผู้ชม เพราะเล่าถึงสถานการณ์ที่ใคร ๆ ก็เคยผ่านมากับคนที่รัก

งิ้วคือบทเรียนที่ไม่มีในตำรา

ปิดท้ายการแสดงในวันที่ 16 กรกฎาคม ด้วยงิ้วร่วมสมัย “พยัคฆ์ปักไหม” ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมสามก๊ก ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เฉาจื้อ” กวีหนุ่มผู้เผชิญความขัดแย้งในตระกูล และต้องต่อสู้กับอคติของพี่ชายหลังการจากไปของบิดา บทสรุปของเรื่องไม่ใช่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ แต่คือความเข้าใจในความเป็นมนุษย์ การยอมรับความอ่อนแอของกันและกัน และการให้อภัยในโลกที่เต็มไปด้วยบาดแผล

เมื่อศิลปะดั้งเดิมกลายเป็นสะพานข้ามรุ่น

ตลอด 7 วันของการแสดง งิ้วแต้จิ๋วไม่ได้เพียงแค่เปิดเวทีให้คนดูได้ซาบซึ้งกับศิลปะการแสดงโบราณ แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้ทบทวนคำว่า “ความดี” ในยุคที่ศีลธรรมมักถูกมองว่าเป็นของล้าสมัย เรื่องราวที่เล่าในเวทีไม่ได้ห่างไกลจากชีวิตจริง หากตรงกับสถานการณ์ของผู้คนในครอบครัว ในสังคม และในสถานการณ์การเมืองมากกว่าที่คิด

เชิญชวนร่วมชมงิ้วแห่งคุณค่าที่มากกว่าความบันเทิง

แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ความดี ความรัก และความกตัญญูไม่เคยหมดความหมาย งิ้วแต้จิ๋วทั้ง 16 เรื่องที่นำมาแสดงในประเทศไทยครั้งนี้ คือโอกาสอันทรงคุณค่าในการได้สัมผัสศิลปะที่ไม่เพียงวิจิตรตระการตา แต่ยังเปี่ยมไปด้วยสาระทางใจที่เข้ากับทุกยุคสมัย

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบางอย่างที่มากกว่าความบันเทิง หรืออยากพาคนในครอบครัวมาร่วมเรียนรู้คุณธรรมผ่านเรื่องเล่าคลาสสิกในบรรยากาศร่วมสมัย ขอเชิญชวนร่วมชมการแสดง “มหาอุปรากรสะท้านปฐพี” จากคณะกึงตังเตี่ยเกี๊ยะอี่อิ๊กท้วง ที่จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 10 ถึง 16 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.00 น. ณ ทรู ไอคอน ฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม

การแสดงมีคำบรรยายภาษาไทยและจีน พร้อมแสง สี เสียงเต็มรูปแบบ เหมาะกับทุกวัย ทั้งผู้ใหญ่ที่มีความทรงจำเก่ากับงิ้ว และคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้าใจศิลปะจีนในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด งิ้วแต้จิ๋วครั้งนี้จะมอบมากกว่าการแสดง แต่มอบ “ความหมาย” ที่อาจอยู่กับผู้ชมไปอีกนานหลังม่านปิดลง.