ภาษีทรัมป์กดดัน BRICS หนุนอาเซียนแย่งตลาดสหรัฐ โอกาสไทยดัน GDP เกิน 2%

ภาษีทรัมป์กดดัน BRICS หนุนอาเซียนแย่งตลาดสหรัฐ โอกาสไทยดัน GDP เกิน 2%

BRICS เสียเปรียบจากภาษีสูง

นโยบาย Liberation Tariffs และบทลงโทษพิเศษของสหรัฐฯ ทำให้ประเทศในกลุ่ม BRICS ต้องเผชิญภาษีในอัตราสูง จีนถูกเก็บถึง 55% ขณะที่อินเดียและบราซิลถูกเก็บ 50% ส่งผลกระทบต่อสินค้าหลัก เช่น เกษตร สิ่งทอ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร ส่วนแอฟริกาใต้ถูกเก็บ 30% และรัสเซียถูกจำกัดการค้าเกือบทั้งหมดจากมาตรการคว่ำบาตร ภาษีที่สูงเช่นนี้ลดความสามารถในการแข่งขันของ BRICS ในตลาดสหรัฐฯ อย่างชัดเจน

อาเซียนได้แรงหนุนจาก Trump Tariffs

ประเทศอาเซียนหลายแห่งได้อานิสงส์จากการปรับลดภาษี ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ถูกเก็บเพียง 19% จากเดิมสูงกว่านี้มาก เวียดนามอยู่ที่ 20% สิงคโปร์ต่ำสุดที่ 10% ขณะที่ลาวและเมียนมาถูกเก็บสูงถึง 40-50% การลดภาษีดังกล่าวช่วยให้อาเซียนมีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะในฐานะฐานการผลิต China Plus One แทนที่สินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ

สรุปข่าว

นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้ทรัมป์สร้างความได้เปรียบให้สินค้าอาเซียนเมื่อเทียบกับ BRICS โดยไทยมีโอกาสขยายส่งออกยาง ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ดึงฐานการผลิตเพิ่ม พร้อมลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ยหนุนเศรษฐกิจโตเกิน 2%

BRICS เสียเปรียบจากภาษีสูง

นโยบาย Liberation Tariffs และบทลงโทษพิเศษของสหรัฐฯ ทำให้ประเทศในกลุ่ม BRICS ต้องเผชิญภาษีในอัตราสูง จีนถูกเก็บถึง 55% ขณะที่อินเดียและบราซิลถูกเก็บ 50% ส่งผลกระทบต่อสินค้าหลัก เช่น เกษตร สิ่งทอ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร ส่วนแอฟริกาใต้ถูกเก็บ 30% และรัสเซียถูกจำกัดการค้าเกือบทั้งหมดจากมาตรการคว่ำบาตร ภาษีที่สูงเช่นนี้ลดความสามารถในการแข่งขันของ BRICS ในตลาดสหรัฐฯ อย่างชัดเจน

อาเซียนได้แรงหนุนจาก Trump Tariffs

ประเทศอาเซียนหลายแห่งได้อานิสงส์จากการปรับลดภาษี ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ถูกเก็บเพียง 19% จากเดิมสูงกว่านี้มาก เวียดนามอยู่ที่ 20% สิงคโปร์ต่ำสุดที่ 10% ขณะที่ลาวและเมียนมาถูกเก็บสูงถึง 40-50% การลดภาษีดังกล่าวช่วยให้อาเซียนมีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะในฐานะฐานการผลิต China Plus One แทนที่สินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ

สินค้ายางและยานยนต์เด่น

การวิเคราะห์ของศูนย์วิจัย DEIIT มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย มีศักยภาพเพิ่มส่วนแบ่งตลาดยางและผลิตภัณฑ์ยางในสหรัฐฯ หลัง BRICS ถูกเก็บภาษีสูง ไทยและอินโดนีเซียเด่นในยางรถยนต์ เวียดนามได้เปรียบยางจักรยาน ขณะที่สิงคโปร์และมาเลเซียแข็งแกร่งในยางสังเคราะห์

ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ไทยได้เปรียบในรถกระบะและยางรถยนต์ มาเลเซียเด่นด้านอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ เวียดนามมีความแข็งแรงในสายไฟและยางมอเตอร์ไซค์ ทำให้สามารถแย่งตลาดจากจีนและอินเดียซึ่งถูกเก็บภาษีสูงถึง 50-55%

โอกาสในอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี

สินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน มีแนวโน้มย้ายคำสั่งซื้อจาก BRICS มาอาเซียนมากขึ้น ไทยแข็งแกร่งในชิ้นส่วนและเครื่องใช้ไฟฟ้า เวียดนามเด่นด้านสมาร์ทโฟน มาเลเซียและฟิลิปปินส์มีโอกาสขยายงานในเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม

ผลต่อเศรษฐกิจไทย

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.หอการค้าไทย ประเมินว่า หากส่วนต่างอัตราภาษีระหว่าง BRICS และอาเซียนยังคงอยู่ การส่งออกของไทยมีโอกาสขยายตัวเกินคาดและดัน GDP ปีนี้ให้โตเกิน 2% รวมถึงดึงดูดการย้ายฐานการผลิตเข้าสู่ไทยมากขึ้น

จับตานโยบายการเงิน

นอกจากประเด็นการค้า นายอนุสรณ์ยังเสนอว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 13 ส.ค. ควรพิจารณาลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ การบริโภคและการลงทุนยังอ่อนแรง และสินเชื่อชะลอตัว

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : Donald Trump

บรรณาธิการออนไลน์