รูปแบบทุ่นระเบิดใหม่ชายแดนไทย พบวางสลับฟันปลาลวงทหารไทย

Share on Line Share on Facebook Share on X
รูปแบบทุ่นระเบิดใหม่ชายแดนไทย พบวางสลับฟันปลาลวงทหารไทย

หน่วยงานความมั่นคงของไทยตรวจพบรูปแบบการวางทุ่นระเบิดลักษณะใหม่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมักพบเป็น ทุ่นระเบิดใหม่จำนวน 3–6 ลูกวางรวมกันเป็นกลุ่ม และพบ กล่องโฟมบรรจุทุ่นระเบิด ทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีการลำเลียงและวางไว้ไม่นานก่อนการตรวจพบ

ข้อมูลจากพื้นที่ระบุว่าทุ่นระเบิดถูกจัดวางในรูปแบบ ซ้าย–ขวา–หน้า–หลัง สลับฟันปลา ตรงเส้นทางที่ทหารไทยใช้ลาดตระเวนเป็นประจำ หรือวางเพื่อหลอกให้เดินเข้าสู่ พื้นที่สังหาร (Killing Zone) ซึ่งเป็นจุดอันตรายสูงสุดสำหรับกำลังพล

สรุปข่าว

พบรูปแบบวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย–กัมพูชา ลักษณะเป็นกลุ่ม 3–6 ลูก พร้อมวางสลับฟันปลาล่อเข้าพื้นที่สังหาร มีการใช้กลยุทธ์หลอกล่อหลายรูปแบบ เช่น ตะโกนสร้างสถานการณ์ ตัดลวดหีบเพลง หรือแอบวางช่วงกลางคืน เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาออตาวาและเป็นอันตรายต่อทหารไทยอย่างยิ่ง

หน่วยงานความมั่นคงของไทยตรวจพบรูปแบบการวางทุ่นระเบิดลักษณะใหม่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมักพบเป็น ทุ่นระเบิดใหม่จำนวน 3–6 ลูกวางรวมกันเป็นกลุ่ม และพบ กล่องโฟมบรรจุทุ่นระเบิด ทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีการลำเลียงและวางไว้ไม่นานก่อนการตรวจพบ

ข้อมูลจากพื้นที่ระบุว่าทุ่นระเบิดถูกจัดวางในรูปแบบ ซ้าย–ขวา–หน้า–หลัง สลับฟันปลา ตรงเส้นทางที่ทหารไทยใช้ลาดตระเวนเป็นประจำ หรือวางเพื่อหลอกให้เดินเข้าสู่ พื้นที่สังหาร (Killing Zone) ซึ่งเป็นจุดอันตรายสูงสุดสำหรับกำลังพล

ตัวอย่างพฤติกรรมที่ตรวจพบในหลายจุด ได้แก่

 • ใช้วิธี ตะโกนเรียกหรือสร้างสถานการณ์ชวนทะเลาะ เพื่อให้ทหารเคลื่อนที่เข้าไปยังจุดที่ฝังทุ่น

 • ตัดลวดหีบเพลง ให้เหมือนถูกทำลาย เพื่อให้ฝ่ายไทยเข้าไปซ่อมแซมและเหยียบทุ่นที่ซ่อนอยู่

 • วางทุ่นก่อนถอยกำลัง เมื่อเห็นว่าฝ่ายไทยเข้าควบคุมพื้นที่

 • แอบลอบเข้ามาวางในเขตไทยช่วงกลางคืน หลังถูกผลักดันออกไป เพราะรู้ว่าทหารไทยต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ใหม่ในวันถัดไป

พฤติกรรมทั้งหมดถูกประเมินว่า มีเจตนามุ่งหมายต่อชีวิตทหารไทยอย่างชัดเจน และเข้าข่ายผิดหลักมนุษยธรรม รวมถึง ละเมิดอนุสัญญาออตาวา ซึ่งห้ามผลิต ครอบครอง และใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กองทัพบกยังยืนยันว่าฝ่ายไทยยังคงเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ แม้จำนวนและรูปแบบการวางทุ่นจะมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : พท.

บรรณาธิการออนไลน์