อย่าหลงเชื่อ! แผ่นดินไหวทุกวัน เกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลก

อย่าหลงเชื่อ! แผ่นดินไหวทุกวัน เกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลก

ข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีมีผู้โพสต์คลิปเตือนภัยระบุ แผ่นดินไหวทุกวันเกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลก ในอนาคตจะสลับขั้วโลกเหนือไปใต้นั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงว่า การเกิดแผ่นดินไหวนั้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก แรงเคลื่อนไหวเหล่านี้สะสมพลังงานไว้ในแผ่นเปลือกโลก จนในที่สุดเกิดการปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาอย่างฉับพลันทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มิใช่เกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลกแต่อย่างใด

สรุปข่าว

อย่าหลงเชื่อ แผ่นดินไหวทุกวันเกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลก ในอนาคตจะสลับขั้วโลกเหนือไปใต้ ขอประชาชนอย่าส่งต่อข่าวลือ

ข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า กรณีมีผู้โพสต์คลิปเตือนภัยระบุ แผ่นดินไหวทุกวันเกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลก ในอนาคตจะสลับขั้วโลกเหนือไปใต้นั้น ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงว่า การเกิดแผ่นดินไหวนั้น เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก แรงเคลื่อนไหวเหล่านี้สะสมพลังงานไว้ในแผ่นเปลือกโลก จนในที่สุดเกิดการปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาอย่างฉับพลันทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มิใช่เกิดจากการย้ายขั้วแม่เหล็กโลกแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าแชร์หรือส่งต่อข่าวลือนี้ และติดตามข่าว พยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกขึ้นในสังคม และหากมีสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพื่อเติม สามารถสอบถามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th, Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weatherสายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวลวงหรือแชร์ต่อ โดยไม่ตรวจสอบ หากได้รับข่าวที่น่าสงสัย ควรตรวจสอบกับหน่วยงานทางการก่อนเผยแพร่

ตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ https://www.antifakenewscenter.com

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เดือนกรกฎาคม 2568 จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ แผ่นดินไหว-สึนามิ กรมอุตุฯ เตือนเป็นข่าวปลอม

เตือนประชาชนอย่าแชร์ข่าวปลอม! ภาพพื้นที่มีโอกาสเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว

กทม. จะเป็นเมืองร้างน้ำในแม่น้ำลดต่ำมาก สทนช. ชี้แจงประเด็นนี้แล้ว

ที่มาข้อมูล : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

ที่มารูปภาพ : Getty Images