
สรุปข่าว
ปัจจัยติดตาม
1.สหรัฐฯ จ่อคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย ดันราคาพุ่งทำสถิติรอบ 11ปี
โดยนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฐฯ นั้นเปิดกว้างที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย โดยเธอบอกว่ามาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ได้วางอยู่บนโต๊ะแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาพลังงานในสหรัฐ ฯ ก่อนที่จะมีการดำเนินการดังกล่าว
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่หนุนให้ราคาน้ำมันบวกกลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง คือการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิมในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรล/วัน สำหรับเดือนเมษายน ซึ่งเป็นมติเดิมที่โอเปกพลัส เคยตกลงไว้แล้วเมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ซึ่งประเด็นของโอเปกพลัส ต้องจับตาต่อว่าหลังจากเหล่าประเทศสมาชิก มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันจนครบกำหนดตามมติเดิมที่ตกลงไว้แล้ว "โอเปกพลัส" จะตัดสินใจต่อหรือกำหนดท่าทีต่อการเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากนี้ต่อไปอย่างไร
2."สเบอร์แบงก์" ของรัสเซียถูกยุโรปสั่งปิด เหตุเผชิญการถอนเงินสด
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินของรัสเซีย ไม่ได้จำกัดอยูาในรัสเซียเท่านั้น เพราะล่าสุด สถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของรัฐบาลรัสเซียที่ชื่อว่า "สเบอร์แบงก์" (Sberbank) ซึ่งมีสำนักงานสาขาในยุโรป ได้ประกาศถอนตัวออกจากตลาดยุโรป หลังจากสำนักงานสาขาดังกล่าว เผชิญกับกระแสการแห่ถอนเงินสดครั้งใหญ่ โดยสำนักข่าวบีบีซีได้เปิดเผยถ้อยแถลงของ "สเบอร์แบงก์" ว่าธนาคารไม่สามารถเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารสาขาในยุโรปได้อีกต่อไป แต่ธนาคารยังมีเงินทุนและคุณภาพสินทรัพย์เพียงพอที่จะจ่ายให้กับผู้ฝากเงินทุกราย
ซึ่งก่อนที่ "สเบอร์แบงก์" จะประกาศถอนตัว ในส่วนของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ได้มีคำสั่งปิดสถาบันการเงินรายใหญ่ที่สุดของรัฐบาลรัสเซียรายนี้ โดยเตือนว่าธนาคารกำลังประสบปัญหา เนื่องจากประชาชนแห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคารดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หลังกังวลต่อเสถียรภาพของธนาคาร ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่นานาชาติ ประกาศคว่ำบาตรสถาบันการเงินของรัสเซีย กรณีรุกรานยูเครน
ส่วนสถานการณ์ค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย ปรากฏว่ายังคงเผชิญการอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แม้ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางรัสเซีย จะพยายามบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งเดียวถึงร้อยละ 10.5 สู่ร้อยละ 20 เพื่อรับมือกับการทรุดตัวของค่าเงินรูเบิล
3.สหรัฐฯ เผยจ้างงานเอกชนพุ่ง จับตาจ้างงานนอกภาคเกษตรศุกร์นี้
ตัวเลขการจ้างงานในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชน ปรากฏว่าตัวเลขพุ่งขึ้นสูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ โดย "ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์" เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 475,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
ซึ่ง ADP ให้ข้อมูลว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ภาคบริการมีการจ้างงาน 419,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงาน 56,000 ตำแหน่ง
ส่วนในวันศุกร์นี้ ตลาดการเงินโลกจับตาไปที่การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐ ซึ่งในขณะนี้ บรรดานักวิเคราะห์ได้ออกมาคาดการณ์ตัวเลขในเบื้องต้นแล้ว โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 415,000 ตำแหน่ง
#ราคาน้ำมัน #สเบอร์แบงก์ #สหรัฐ #คว่ำบาตร
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://lin.ee/TQ14oAe
• Facebook : https://www.facebook.com/TNNWealth
—————————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง
https://www.facebook.com/TNN16LIVE/
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand