
สรุปข่าว
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.ได้มีมติรับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2564 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้ภายในเดือนมีนาคมของทุกปีให้กระทรวงการคลังจัดทำรายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปี และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
ทั้งนี้ รายงานความเสี่ยงทางการคลังประจำปีงบประมาณ 2564 ได้มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงในภาคงบประมาณ รวมถึงภาระผูกพันและความเสี่ยงจากการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ โดยมีข้อเสนอแนะประกอบการพิจารณาดำเนินการและกำหนดนโยบายการคลังที่เกี่ยวข้องในอนาคต สรุปประเด็นสำคัญได้ ดังนี้
โดยรัฐบาลยังมีพื้นที่ทางการคลังสำหรับดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลได้ในกรณีที่จำเป็นภายใต้ความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแผนการคลังระยะปานกลาง ปีงบ ประมาณ 2566 - 2569 ที่กำหนดให้รัฐบาลดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลอย่างต่อเนื่องตามความจำเป็นในการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการส่งสัญญาณการทยอยลดสัดส่วนขาดดุลต่อ GDP ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องพิจารณาแนวทางในการเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บรายได้ รวมถึงการลดทอนรายจ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นลง ควบคู่ไปกับการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อลดสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อ GDP ในระยะยาวต่อไป
"ประมาณการสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อรายได้ในอนาคตมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ทั้งนี้ ในระยะสั้นถึงปานกลางคาดว่า ภาระดอกเบี้ยต่อรายได้จะยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ภายใต้การวิเคราะห์ติดตามอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ในระยะยาว รัฐบาลควรเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บรายได้เพื่อให้สัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อรายได้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐอย่างพอเพียง"
ขณะที่ประมาณการสัดส่วนรายได้รัฐบาลสุทธิต่อ GDP ยังคงมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาทบทวนมาตรการยกเว้นภาษีและมาตรการลดหย่อนต่าง ๆ ที่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ควบคู่ไปกับการพิจารณาผลักดันแนวทางในการเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บรายได้รัฐบาลให้มีผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยคำนึงให้สอด คล้องตามความเหมาะสมและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องพิจารณาบริหารจัดการด้านรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมถึงรัฐบาลจำเป็นต้องพิจารณาขับเคลื่อนโครงการลงทุนภาครัฐนอกเหนือจากภาคงบประมาณ และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนของภาครัฐยังสามารถเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา คลัง
ภาพประกอบ คลัง
- อภิปรายงบฯ 2569 โค้งสุดท้ายสู่การลงมติ กับเดิมพันเศรษฐกิจแผ่นดิน
- ภาษีทรัมป์ยังมีผลบังคับใช้ หลังศาลอุทธรณ์ไม่สั่งระงับการขึ้นภาษี
- เกาหลีใต้หั่นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 พร้อมลดอีก
- ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สั่งยกเลิกมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ทรัมป์ให้เวลาตัดการ 10 วัน
- "สรรพากร" เล็งยกเว้นเก็บภาษีรายได้จากต่างประเทศ หวังดึงเงินกลับไทย
- ตอบโต้ทุ่มตลาด "จีน" ขึ้นภาษีพลาสติก สหรัฐฯ-ยุโรป-ญี่ปุ่น-ไต้หวัน
- "พิชัย"เดินหน้าปรับโครงสร้างประเทศไทย สร้างมั่งคั่ง ดันเทคโนโลยี พลิกโฉมเกษตร
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand