นายกฯพอใจมูลค่าส่งออกสูงสุดในรอบ 30 ปี -“มะม่วงไทย” ขยายตัวพุ่ง 15 %

วันนี้ ( 1 พ.ค. 65 )พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความพอใจกับผลการส่งออกของไทย ซึ่งพบว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ 28,859 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5 ซึ่งเป็นขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13  โดยคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 922,313 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติการส่งออกตั้งแต่ปี 2534  

ทั้งนี้ พบว่าผลไม้มะม่วง มีการส่งออกเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสด มูลค่ารวม 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 52  จากปี 2563 ต่อเนื่องจนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ไทยเราส่งออกมะม่วงสด มูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวมากถึงร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปี 2564  

ทั้งนี้รัฐบาลได้สนับสนุนการขยายช่องทางทางการค้าเพิ่มเติม ผ่านการเจรจาการค้าเสรี และข้อตกลงทางการค้าเสรี FTA อย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการส่งเสริมและผลักดัน “ซอฟต์ พาวเวอร์” (Soft Power) ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทยให้มากขึ้นด้วย

ขณะที่  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ยังคงเดินหน้าทางการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือทางการค้า ระหว่าง "กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ" ของไทย กับ "กรมพาณิชย์ มณฑลกานซู่" สาธารณรัฐประชาชนจีน  ผ่านระบบวิดีโอทางไกล 

โดยการลงนามเอ็มโอยูครั้งนี้ เป็น "มินิ เอฟทีเอ" (Mini FTA) ฉบับที่ 2 ที่ไทยได้มีการลงนามกับมณฑลในจีน และเป็นฉบับที่ 4 ที่ได้ลงนามกับคู่ค้า โดยได้ตั้งเป้าที่จะร่วมมือขับเคลื่อนกิจกรรมทางการค้า ระหว่างไทย-กานซู่ ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มยอดการค้าในปี 2565 เป็น 1,265 ล้านบาท จากเดิมปี 2564 มูลค่าการค้าอยู่ที่ 1,092 ล้านบาท 

สำหรับกิจกรรมที่จะดำเนินการทันทีภายหลังมี Mini FTA  คือ กระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้นำเข้ากานซู่ มาร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร ไทยเฟ็กซ์  (THAIFEX) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24-28 พฤษภาคมนี้ ก่อนนำผู้ประกอบการไทยเดินทางไปร่วมงานแสดงสินค้าที่หลานโจว ระหว่างวันที่ 7-11 กรกฎาคม จากนั้นจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสมุนไพรที่กานซู่จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมหรือกันยายนนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทย  นอกจากนี้ จะเร่งขยายตลาดสินค้าอาหารฮาลาล เจาะเข้าสู่ตลาดกานซู่ให้ได้เพิ่มขึ้น เพราะมีผู้บริโภคชาวมุสลิมอยู่เป็นจำนวนมาก  

ภาพจาก :  Thaigov