"ออมสิน" ยันตรึงดอกเบี้ยเงินกู้นานที่สุดลดภาระลูกหนี้

 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน  เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินจะตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด แต่จะนานแค่ไหนนั้น ยังต้องประเมินอีกครั้ง ว่าดอกเบี้ยจะปรับขึ้นเมื่อไหร่ และต้องรอดูว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเท่าไหร่ 0.25%หรือ 0.5% ซึ่งขณะนี้ธนาคารก็ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เป็นแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่อยู่ 

  สำหรับผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าสินเชื่อที่เกิดขึ้น เช่น กลุ่มสินเชื่อบ้าน จะมีผลต่องวดการผ่อนชำระ แต่หากดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นไม่สูงมาก ก็จะไม่กระทบต่อเงินงวด แต่อาจทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้น เนื่องจากเงินงวดที่ผ่อนชำระแต่ละงวดจะถูกตัดในส่วนของดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และจะไปตัดในส่วนของเงินต้นลดลง

"ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้กู้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีการกู้สินเชื่อไปแล้ว และกลุ่มที่จะกู้ใหม่ในอนาคตซึ่งจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันกลุ่มเงินฝากก็จะได้รับดอกเบี้ยสูงขึ้นทันทีตามดอกเบี้ยนโยบาย"

สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่เป็นกลุ่มฐานรากของธนาคารออมสิน ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5.7 ล้านราย หรือ คิดเป็น 70% ของพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งในจำนวนนี้มี 4 ล้านรายที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ที่ธนาคารออมสินได้เข้าไปช่วยปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย อย่างไรก็ตามออมสินยังมีเงินสำรองที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับกรณีเกิดหนี้เสียขึ้นในกลุ่มนี้

นอกจากนี้ช่วงเดือน พ.ย.นี้ ธนาคารจะเปิดบริการปล่อยกู้ให้ลูกค้ารายย่อยผ่านระบบออนไลน์ หรือดิจิทัลเลนดิ้งได้ 100% โดยจะเน้นการปล่อยกู้ให้กลุ่มอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้าตลาดสด พร้อมกับไม่นำข้อมูลเรื่องของรายได้ของผู้กู้มาเป็นหลักเกณฑ์พิจารณา แต่จะใช้ข้อมูลอื่น เช่น อาชีพ อายุ ประวัติการชำระเงิน การจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มาประกอบ โดยวงเงินในการปล่อยกู้ต่อรายจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท ดอกเบี้ยคิดที่ 1-1.25% ต่อเดือน คาดว่า เมื่อเราปล่อยกู้ได้ จะทำให้มีลูกค้าเข้ามาในพอร์ตเพิ่มขึ้น 2 แสนราย

“การปล่อยกู้ผ่านดิจิทัลเลนดิ้ง เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ธนาคารเป็นธนาคารเพื่อสังคมได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่ประกอบอาชีพอิสระ ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ มีน้อยกว่าผู้ที่มีรายได้ประจำ ดังนั้น ธนาคารจะพยายามออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้สอดคล้องกับอาชีพ ป้องกันไม่ให้ไปกู้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารมีฐานลูกค้ารายย่อยถึง 70% ของพอร์ต”

นอกจากนี้ ธนาคารจะเร่งเปิดตัวธุรกิจนอนแบงก์ บริษัทมีที่มีเงิน เพื่อประกอบธุรกิจด้านสินเชื่อที่ดิน ธุรกิจขายฝาก และสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อยให้มีสภาพคล่อง โดยที่อัตราดอกเบี้ยจะยังคงต่ำกว่าในระบบ ซึ่งอยู่ในระดับไม่เกิน 20% ต่อปี

ที่มา  ธนาคารออมสิน 

ภาพประกอบ ธนาคารออมสิน