"CRG" ทุ่มงบ 1,500 ล้าน ฟื้นแผนนำอาหารไทยลุยเวียดนาม

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG เปิดเผยว่าในปี 2565 ตลาดรวมร้านอาหารอยู่ที่ 410,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14 จากปี 2564 และในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3-5 มีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของโควิดและการท่องเที่ยว ทำให้คนเริ่มออกมาทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น

แต่ปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายของร้านอาหาร แม้นักท่องเที่ยวจะเข้ามามากแต่ยังไม่เต็มที่และยังมีความไม่แน่นอนจากรัสเซียกับยูเครน และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หลังธนาคารในต่างประเทศล้มและขอรับความช่วยเหลือจากทางการ

ส่วนในปีนี้ CRG ยังลงทุนต่อเนื่อง วงเงิน 1,500 ล้านบาท เพื่อขยายร้านอาหาร 150 สาขา ในกรุงเทพ หัวเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยว จากปัจจุบันมี 1,500 สาขา เช่น เคเอฟซี 20 สาขา

และมีร้านอาหารแบรนด์ใหม่เพิ่ม 1-2 แบรนด์ในธุรกิจที่ยังไม่เคยไป เช่น ชาบู ปิ้งย่างเกาหลี ตั้งเป้ายอดขาย 15,000 ล้านบาท เติบโต ร้อยละ 20 จากปีก่อนมีรายได้ 12,800 ล้านบาทและกลับมาเท่าก่อนมีโควิด

นอกจากนี้ CRG ยังตั้งเป้าจะเข้าไปลงทุนร้านอาหารที่โฮจีมินห์ ประเทศเวียดนาม ทั้งอาหารไทย อีสานและญี่ปุ่น โดยรูปแบบการลงทุนมี 3 ทางเลือก คือ ลงทุนเอง ร่วมกับพันธมิตรและขายแฟรนไชส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดูความเป็นไปได้ ซึ่งถ้าไม่มีโควิด บริษัทตั้งใจจะเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 2564 เพราะมองว่าในอนาคตเวียดนามเป็นประเทศที่เติบโตสูงและเครือเซ็นทรัลได้เข้าไปลงทุนอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ง่ายเพราะการแข่งขันสูงเช่นกัน

ด้านนายศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านอาหารชินคันเซ็นซูชิ และนักล่าหมูกระทะ ผู้ร่วมลงทุนCRG กล่าวว่า หลังร่วมทุนกับ CRG ทำให้รายได้บริษัททะลุ 1,200 ล้านบาทในปี 2565 และปีนี้ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาทและ 3,000 ล้านบาทในปี 2568

สำหรับแผนปีนี้จะเปิดร้านชินคันเซ็น ซูชิ 8 สาขาจากปัจจุบันมี 44 สาขา และนักล่าหมูกระทะ 4 สาขา จากมี 1 สาขาเน้นในคอมมูนิตี้มอลล์ย่านกรุงเทพและปริมณฑล 

ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE

ที่มาภาพ : TNN