ททท. ตั้งเป้าฟื้นตลาดญี่ปุ่นดึงนทท. เที่ยวไทยปีนี้ 1.26 ล้านคน

นางสาว ฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของบัตรเครดิตวีซ่า ปี 2566 พบว่า ตลาดที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ยังเป็น ประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ทำให้ตลาดไทยเที่ยวญี่ปุ่นเสียดุลตลาดญี่ปุ่นเที่ยวไทย หรือ มีคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยน้อยกว่า คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น ในปี 2566 เป็นครั้งแรก โดยมีคนญี่ปุนเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 1 ล้านคน ถือว่ายังฟื้นตัวกลับมาไม่เท่าปี 2562 หรือก่อนเกิดโควิด -19  ที่มีคนญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวไทยที่ 1.8 ล้านคน 

ผู้ว่าการททท. บอกว่า ในปี 2567 นี้ ททท.จึงตั้งเป้าหมายฟื้นตลาดญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของปี 2562 หรือ ให้ได้จำนวนที่ 1.26 ล้านคน เพื่อให้ช่องว่างการขาดดุลท่องเที่ยวลดลง สำหรับกรณีความกังวลปัญหาคนไทยลักลอบเข้าไปค้าแรงงานผิดกฎหมายในญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นอาจมีการพิจารณายกเลิกวีซ่าฟรีกับไทย มองว่าคนไทยเองต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ไม่อยากให้มีการลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมาย จนส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในภาพรวม

ขณะที่สื่อญี่ปุ่น ก็มีการายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังเร่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยมาตรการล่าสุด ทางกระทรวงเศรษฐกิจ พาณิชย์ และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับรัฐบาล และธนาคารกลางของประเทศในอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย กัมพูชา และอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อพิจารณาเปิดใช้งานระบบชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด ร่วมกัน เพื่อช่วยให้นักเดินทางสามารถใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าในต่างประเทศได้สะดวกมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องแลกเงิน

สมาคมระบบชำระเงินญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดมาตรฐานของประเทศที่เรียกว่า JPQR จะสร้าง "ระบบคิวอาร์โค้ดใหม่" ขึ้นในช่วงต้นปี 2567 นี้ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการระบบชำระเงินในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานในอาเซียนสามารถใช้สมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ทันที  ซึ่งบางประเทศในอาเซียนมีการใช้ระบบคิวอาร์โค้ดที่เป็นมาตรฐานของตนเองอยู่แล้ว เช่น ประเทศไทย และอินโดนีเซีย   ขณะที่ 5 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MOU) ตั้งแต่ปี 2565 โดยมีเป้าหมายที่จะรวมระบบชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเข้าด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการเปิดบริการคิวอาร์โค้ดร่วมกันแล้วในบางประเทศ โดยคาดว่า จะเริ่มใช้ได้ช่วงเดือนเมษายน ปี 2568

ภาพจาก: AFP