
สรุปข่าว
ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงแรง ภายหลังการประชุมเฟด อย่างไรก็ตาม มีแรงเทขายออกมาในช่วงกลางคืน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ซึ่งจีดีพีไตรมาส 3 ของสหรัฐขยายตัว 3.1% มากกว่าที่ตลาดคาดจะขยายตัว 2.8%
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 22,000 ราย เหลือ 220,000 ราย และยังต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า กดดันราคาทองคำ ส่วนกองทุน SPDR ขายทอง 3.16 ตัน
แม้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 2,625 ดอลลาร์ แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ จึงเกิดแรงเทขายลงมา ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคยังส่งสัญญาณการปรับตัวลง โดย MACD เกิด Bearish MACD ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงได้
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือน พ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% จากเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ของม.มิชิแกน
หากราคาทองคำฟื้นตัวมายังบริเวณ 2,610 ดอลลาร์ แนะนำเปิดสถานะขายบริเวณ 2,610 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,620 ดอลลาร์
คาดว่าราคาทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ หลังจากที่เกิดสัญญาณขาย (sell signal ) จากเส้น SMA20 ตัดเส้น SMA50 ลงมา ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าทำให้ราคาทองคำแท่งปรับตัวลงไม่มากนัก แนะนำ Wait & see รอเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 41,900 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
.
- ทองเริ่มมีแรงเทขายทำกำไร จากปรับขึ้นร้อนแรง และผลตอบแทนสูงถึง 20%
- "ทองคำ" ปรับตัวแรงทะลุ 5 หมื่นบาทเรียบร้อย
- ทองคำปรับตัวขึ้นทำสถิติ หลังทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์-รถบรรทุกขนาดเล็กในอัตรา 25%
- ทองคำลดลง มีแรงกดดันจากเงินดอลลาร์แข็งค่า และ Bond yield สหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น
- ทองคำขึ้นต่อ จากยังมีปัจจัยบวก แม้ตะวันออกกลางจะโจมตีแรงขึ้น
- ราคาทองคำเดินหน้าปรับตัวขึ้น ทำ All-time high ที่ 3,051 ดอลลาร์ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25% - 4.50%
- ทองคำปรับตัวขึ้นมาที่ 3,000 ดอลลาร์ ได้แรงหนุนเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand