ปัจจัยกดดันหลัก: ความขัดแย้งตะวันออกกลาง

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุนจาก บล.ลิเบอเรเตอร์ ชี้ว่า แรงกดดันหลักมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง อิสราเอล–อิหร่าน ที่ยกระดับมากขึ้นหลังสหรัฐแสดงบทบาทในความขัดแย้ง อีกทั้งกระแสข่าว อิหร่านเตรียมปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันสำคัญ ทำให้ตลาดกังวลต้นทุนพลังงานจะสูงขึ้น

ปัจจัยภายใน: ความเชื่อมั่นอ่อนแอ แม้การเมืองผ่อนคลายเล็กน้อย

ภายในประเทศยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง แม้พรรคร่วมรัฐบาลยังสามารถประคองเสียงข้างมากเพื่อเดินหน้า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ได้ ทำให้ดัชนีดีดตัวจากจุดต่ำสุดบางส่วน แต่ยังต่ำกว่าระดับในเดือนเมษายน หรือช่วง "วันปลดแอกของทรัมป์"

แนวโน้มวันพรุ่งนี้

นักวิเคราะห์แนะนำให้ติดตามปัจจัยสำคัญ ได้แก่

- สถานการณ์ อิสราเอล-อิหร่าน

- ตัวเลข ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนมิ.ย.

- ผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดบ้าง

- การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเรื่องอัตราดอกเบี้ย

แนวรับ: 1,050 จุด
แนวต้าน: 1,070 จุด

สรุปหลักทรัพย์มูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ

1.ADVANC: 2,227.37 ลบ. ปิดที่ 274.00 บ. (+5.00 บ.)

2.PTTEP: 1,780.67 ลบ. ปิดที่ 111.00 บ. (+1.00 บ.)

3.TRUE: 1,727.60 ลบ. ปิดที่ 10.40 บ. (ไม่เปลี่ยนแปลง)

4.CPALL: 1,500.55 ลบ. ปิดที่ 43.25 บ. (+0.75 บ.)

5.AOT: 1,383.60 ลบ. ปิดที่ 29.00 บ. (+0.75 บ.)