
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
สรุปข่าว
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 32.35-32.42 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ของปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาทอย่าง เงินดอลลาร์ และราคาทองคำ ทั้งนี้ เงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนกรกฎาคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 61.8 จุด ดีกว่าคาด
ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะ 1 ปี และ 5 ปี ข้างหน้า ก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.4% และ 3.6% ต่ำกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดลดความกังวลต่อแนวโน้มการเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง) ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงบ้าง
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ทยอยออกมาดีกว่าคาด และอัตราเงินเฟ้อ CPI ก็สูงกว่าคาด
สำหรับในสัปดาห์นี้ มองว่า ควรรอติดตาม รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ พร้อมรอลุ้น รายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และเตรียมรับมือความผันผวนจากความวุ่นวายการเมืองญี่ปุ่น
แนวโน้มเงินบาท
มองว่า โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเริ่มมีกำลังมากขึ้น ทำให้โดยรวมเงินบาทยังไม่ได้อ่อนค่าตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า แม้ว่าเงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องก็ตาม โดยเงินบาทยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า ตามการทยอยปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทใกล้โซนแนวต้านในช่วงที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยปรับสถานะถือครอง
ขณะเดียวกัน ความหวังการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ และแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใต้การนำของผู้ว่าการธปท. ท่านใหม่ ยังได้หนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นและดึงดูดแรงซื้อหุ้นไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี เราขอคงมุมมองเดิมว่า ความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กอปรกับความเสี่ยงการเมืองในประเทศไทย อาจกดดันให้เงินบาทยังมีความเสี่ยงอ่อนค่าลงบ้าง แต่เงินบาทจะอ่อนค่าได้มากน้อยเพียงใด จะขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
โดยหากราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นเงินบาทสามารถอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ จากการประเมินในเชิงเทคนิคัล เงินบาทมีโซนแนวต้านแรกแถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์ (โซนแนวต้านถัดไป 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์) ส่วนโซนแนวรับจะอยู่แถว 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 32.10 บาทต่อดอลลาร์)
- เงินบาทเช้านี้ 17 กรกฎาคม 2568 “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” เปิดตลาด 32.48 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 16 กรกฎาคม 2568 “อ่อนค่าลง” เปิดตลาด 32.58 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 15 ก.ค.2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าเล็กน้อย“ ที่ระดับ 32.46 บาทต่อดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 14 ก.ค.2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 9 ก.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.57 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 7 ก.ค. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 32.39 บาท/ดอลลาร์
- เงินบาทเช้านี้ 4 ก.ค.2568 “อ่อนค่า” เปิดตลาดที่ 32.43 บาท/ดอลลาร์
ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS
ที่มารูปภาพ : TNN
