เงินบาทเช้านี้ 15 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ 15 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.75 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 31.71 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.65-31.85 บาท/ดอลลาร์

สรุปข่าว

เงินบาทเช้านี้ 15 ก.ย. 2568 เปิดตลาด “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” ที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.65-31.85 บาท/ดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.75 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 31.71 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.65-31.85 บาท/ดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน แถวโซน 31.75 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 31.70-31.79 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกันของเงินดอลลาร์

หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นผลการประชุม FOMC ของเฟด เดือนกันยายน (รับรู้ในวันที่ 18 กันยายน นี้ ตามเวลาประเทศไทย) ส่วนราคาทองคำ (XAUUSD) ก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงในลักษณะ Sideways Down สู่โซน 3,640-3,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์

อนึ่งในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย เงินดอลลาร์ได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าเพิ่มเติม ตามการอ่อนค่าลงบ้างของเงินยูโร (EUR) หลัง Fitch Rating ได้ปรับลดอันดับเครดิตเรทติ้งของฝรั่งเศสลงจากระดับ AA- สู่ระดับ A+ ท่ามกลางความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองและระดับหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุม FOMC เดือนกันยายน ได้ โดยเงินบาท (USDTHB) ยังพอมีโซนแนวรับแถว 31.50 บาทต่อดอลลาร์ และแนวต้านในช่วง 31.85 บาทต่อดอลลาร์

อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk โดยเรามองว่า ยังมีโอกาสที่เงินบาทอาจอ่อนค่าลงบ้าง (เราจะมั่นใจมากขึ้นว่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ตามกลยุทธ์ Trend-Following) หรืออย่างน้อยการแข็งค่าขึ้นขอเงินบาทก็ควรชะลอลง หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยเท่าที่ตลาดคาดหวัง (6 ครั้ง จนถึงสิ้นปี 2026) ทว่า ควรระวังความเสี่ยงที่เงินบาทอาจแข็งค่าเร็ว แรงในระยะสั้น หากเฟดเร่งลดดอกเบี้ย 50bps สวนทางกับคาดการณ์

ที่มาข้อมูล : Krungthai GLOBAL MARKETS

ที่มารูปภาพ : TNN