"คนละครึ่งพลัส" ยอดใช้จ่าย 4 พันล้าน หนุนคลังปรับประมาณาการ GDP ปี 68 โต 2.4%

"คนละครึ่งพลัส" ยอดใช้จ่าย 4 พันล้าน หนุนคลังปรับประมาณาการ  GDP ปี 68 โต 2.4%

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน โดย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 (เวลา 23.00 น.) มี ยอดใช้จ่ายรวม 4,062 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินประชาชน 2,051 ล้านบาท และเงินรัฐบาลร่วมจ่าย 2,011 ล้านบาท พร้อมทั้งมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านการตรวจสอบแล้ว 742,379 ราย

สรุปข่าว

โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ได้รับการตอบรับดี มียอดใช้จ่ายรวม 4,062 ล้านบาท ณ สิ้นวันที่ 30 ต.ค. 68 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ รวมถึงการเข้าร่วมของ Food Delivery Platform คาดว่าจะช่วยหนุน GDP ไทยปี 68 ให้ขยายตัวเพิ่มเป็น 2.4% ตามที่กระทรวงการคลังปรับประมาณการ

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน โดย ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 (เวลา 23.00 น.) มี ยอดใช้จ่ายรวม 4,062 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินประชาชน 2,051 ล้านบาท และเงินรัฐบาลร่วมจ่าย 2,011 ล้านบาท พร้อมทั้งมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านการตรวจสอบแล้ว 742,379 ราย

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหนุน GDP

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้ขยายตัวได้ดีในไตรมาสที่ 4/68 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น

กระทรวงการคลัง ได้ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ว่าจะ ขยายตัวที่ 2.4% (กรอบ 1.9-2.9%) ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ 2.2% ทั้งนี้นายสิริพงศ์ย้ำว่า แนวทาง "Quick Big Win" โดยเฉพาะการเข้าร่วมของ Food Delivery Platform ถือเป็นแรงเสริมสำคัญในการขับเคลื่อนการบริโภคในประเทศช่วงปลายปี

เตือนร้านค้าห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา

นายสิริพงศ์ได้เน้นย้ำไปยังผู้ประกอบการร้านค้าว่า อย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าเกินควร โดยกระทรวงการคลังได้ติดตามการใช้จ่ายภายในโครงการอย่างใกล้ชิดผ่านระบบ Data Analytics เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่น่าสงสัยและผิดปกติ หากพบการกระทำความผิดจริง จะถูกดำเนินคดีในข้อหา ฉ้อโกง อย่างถึงที่สุด มีการดำเนินมาตรการป้องกันร่วมกับ Food Delivery Platform เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภคหรือการทุจริต

ที่มาข้อมูล : สำนักนายกรัฐมนตรี

ที่มารูปภาพ : TNN