
สรุปข่าว
วันนี้ (20ธ.ค.62) ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนากำลังเผชิญปัญหาหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลและรวดเร็วในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยหลังจากหนี้ปรับลดลงในช่วงวิกฤตการการเงินในปี 2008 มูลหนี้ในประเทศตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 170% ของขนาดเศรษฐกิจ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนดอกเบี้ยกู้ยืมต่ำ เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังปี 2010
รายงานระบุว่า หนี้ของตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น อยู่ในประเทศจีน คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนอกเหนือจากจีนจะเป็นผู้ก่อหนี้รายใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้ให้กู้รายใหญ่กับประเทศที่มีรายได้น้อยอีกด้วย
เวิล์ดแบงก์เตือนว่า หากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและหากเกิดการชะงักของเศรษฐกิจทั่วโลก ผลกระทบจาการก่อหนี้จะรุนแรงอย่างมากเพราะเกี่ยวข้องทั้งกับภาคเอกชนและภาครัฐ
เวิล์ดแบงก์ แนะนำให้แต่ละประเทศมีการจัดการหนี้ที่ดีขึ้น ยกระดับการจัดเก็บภาษี มีอัตราดอกเบี้ยที่ยืดหยุ่น แลประหยัดงบประมาณทางการคลัง เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงวิกฤตและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นหากเกิดวิกฤตหนี้
ก่อนหน้านี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้เปิดเผยรายงานระบุว่า ปริมาณหนี้ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 188 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 230% ของขนาดเศรษฐกิจโลก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
- ลูกหนี้ต้องรู้ “คุณสู้ เราช่วย” ทางออกแก้หนี้คนไทย l World Wide Wealth
- "ธนาคารโลก"คาด"จีดีพี"ไทยปีนี้โตร้อยละ 1.8
- "ธนาคารโลก"ห่วง"เมียนมา" ศก.ย่ำแย่หลังแผ่นดินไหว
- ธนาคารโลกห่วง ศก. สู่ทศวรรษโตช้าสุด
- "ธนาคารโลก" เตือนการค้าโลกใกล้ชะงัก หวั่นภาษีลุกลาม หั่นเศรษฐกิจ ปี 68 เหลือ 2.3%
- สัญญาณเตือน 5 ชาติ G7 หนี้สาธารณะพุ่ง
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand