กิมเอ็งคัด4หุ้นเด่นน่าลงทุน

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ให้ความเห็นว่าโควิด19 กระทบกำไรรวมไตรมาส 1/2563 หดตัว 59% เมื่อเทียบกับปีก่อน การแพร่ระบาดของโควิด19 ในช่วงไตรมาส1/2563 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อแทบทุกอุตสาหกรรม จากการรวบรวมข้อมูลกำไรในช่วง 1/2563 ของทุกบริษัทใน ตลาดหลักทรัพย์ พบว่าเหลือเพียง 1.1แสนล้านบาทเท่านั้นลดลงไปถึง 59% เมื่อเทียบกับปีก่อน 

กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรหดตัวมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ พลังงาน รองลงมาคือปิโตรเคมี และวัสดุก่อสร้าง โดยกำไรรวมไตรมาส 1 ปี 63 ต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ราว 12% ซึ่งอาจเห็นการปรับประมาณลงอีกเล็กน้อย 

จากการค้นหาหุ้นเด่นที่น่าจะไปต่อ จากงบการเงินไตรมาส1/2563 ที่รายงานเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่ากลุ่มที่ราคาหุ้นมีโอกาสไปต่อ น่าทยอยสะสม คือ หุ้นที่กำไร 1Q63 อ่อนแอมาก แต่คาดจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และกำไรจะกลับมาเร่งตัวเด่นตั้งแต่ ไตรมาส2/2563 เป็นต้นไป 

โดยกลุ่มอุตสาหกกรรมที่ใกล้เคียงเงื่อนไขนี้ ได้แก่ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ส่วนหุ้นที่ผลการดำเนินงาน ไตรมาส1/2563 ขยายตัวโดดเด่น และอาจอ่อนตัวลงบ้างในช่วง ไตรมาส2/2563 แต่จะกลับมาเร่งตัวขึ้นเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี   

จากการคัดกรองจากธีมการลงทุนดังกล่าว จะได้ 4 หุ้น ที่น่าทยอยสะสม ได้แก่ SPRC , TASCO , JMT และ CBG   

สำหรับราคาหุ้นจะถูกหรือแพงนั้น ขึ้นอยู่กับสไตล์การลงทุน จากกำไรที่อ่อนแอและต่ำคาด ส่งผลให้นักวิเคราะห์ยังมีโอกาสปรับลดคาดการณ์กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียน โดยล่าสุดกำไรตลาดปีนี้ ตลาดคาดลดลงสู่ระดับ 70 บาท ต่อหุ้น ซึ่งระดับดัชนี ณ ปัจจุบัน คิดเป็น PE ราว 18.2 เท่า เทียบเคียง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างตึงตัว

แต่อย่างไรก็ดีมุมมองของนักลงทุนระยะกลาง-ยาว อาจมองข้ามกำไรปีนี้ เพราะถือว่าเป็นปีที่ไม่ปกติ โดยคาดว่าในปีถัดไปมีโอกาสจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ หลังโควิด-19 คลี่คลาย โดยหากมีมุมมองเช่นนี้ ดัชนี ในปัจจุบันก็ยังไม่แพงนัก 

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand