
สรุปข่าว
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก อายุโครงการประมาณ 1 ปี คือ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y17 ตั้งแต่วันนี้ -16 มีนาคม 2564 ซึ่งกองทุนดังกล่าวเหมาะในการกระจายพอร์ตการลงทุนไปทั่วโลกเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำระยะยาว
กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y17 เป็นกองทุนตราสารหนี้ และเป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศด้วยกลยุทธ์การลงทุนแบบครั้งเดียว (buy-and-hold) มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่า 80 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับ ที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภท ตราสารหนี้
อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกิน 20 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ซึ่งกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือเห็นชอบให้ลงทุนได้ ไม่เกิน 20% ของมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่ เงินฝาก ตราสารทางการเงิน ตราสารแห่งหนี้ หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด
ทั้งนี้กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก. ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด และอาจลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) รวมถึงอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน (FX Derivatives) ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ
โดยหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ที่คาดว่าจะมีการลงทุนเกินกว่า 20 %ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนของกองทุน KTGF1Y17 คือ กองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 - VI C (USD)-Accumulation ที่บริหารโดย Invesco บลจ.ระดับโลก โดยเน้นลงทุน ไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร)
ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในกองทุนนี้ หมายถึง ประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึง ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน มีปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน อาทิ ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองทุนนี้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- เปิดลิสต์ 5 อันดับกองทุนรวม “RMF” ผลตอบแทนดีสุดปี 68
- "คนจีน" ไม่กล้าใช้จ่าย 80 % หันออมเงิน แม้ดอกเบี้ยต่ำ
- "เงินบาท" แข็งค่าสุดรอบ 7 เดือน จับตา "หนี้สหรัฐฯ" หลังรัฐบาล "ทรัมป์" ขาดความน่าเชื่อถือ
- G-Token คืออะไร? การลงทุนรูปแบบใหม่ หวังดึง Gen Z-คนรุ่นใหม่ ออมสินทรัพย์ดิจิทัล ค้ำด้วยพันธบัตรรัฐ
- ไทยติดเรดาร์การค้าโลก! "Geopolitical Pivot" ปลดล็อกโอกาสลงทุน SET ฟื้นตัว
- สายลดหย่อนภาษีไม่ควรพลาด! โยก LTF ไป ThaiESGX ภายใน 30 มิถุนายน 2568
- "วอร์เรน บัฟเฟตต์" จากนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงเทคโนโลยีสู่หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Apple
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand