นับถอยหลัง 'ไทย' เตรียมเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเร็วกว่าคาด4-5ปี

นับถอยหลัง 'ไทย' เตรียมเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเร็วกว่าคาด4-5ปี

สรุปข่าว

วันนี้ (24มี.ค.64) นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้การสำรวจทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี 2563 ของวีซ่า ครั้งที่ 7 จากคนจำนวน 1,000 คน อายุ 18-65 ปี รายได้ 1.5 หมื่นบาทต่อเดือน พบว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คนไทยมองว่า ภายในปี 2569 ไทยจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Cociety) ซึ่งใช้เวลาเพียง 4-5 ปี จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลานานถึง 10 ปี หรือปี 2573

          

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพบว่า 4 ใน 5 หรือประมาณ 82% ใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด และโดยเฉลี่ยคนไทยสามารถใช้ชีวิตโดยไม่พึ่งเงินสดได้นานถึง 8.1 วัน มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 19% และสามารถอยู่ได้ 1 เดือน เพิ่มจาก 3% เป็น 4% ขณะที่คนไทยพกเงินสดน้อยลงมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 51% จากเดิมอยู่ที่ 30% เนื่องจากคนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

          

ทั้งนี้ จะเห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยรับรู้และคุ้นเคยกับการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดมากที่สุด 94% ตามด้วยวิธีการชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่ายผ่านสมาร์ทโฟน 92% และการแตะเพื่อจ่ายผ่านบัตรคอนแทคเลส (Contactless) 89% ส่วนในด้านของการใช้งานจริงนั้น 45% ของผู้ทำแบบสอบถามเลือกชำระเงินแบบแตะเพื่อจ่ายผ่านสมาร์ทโฟนมากที่สุด ตามมาด้วยการสแกนชำระผ่านคิวอาร์โค้ด 42% และแตะเพื่อจ่ายผ่านบัตรคอนแทคเลส 41%

          

อย่างไรก็ดี ภายในสิ้นปี 2564 วีซ่าพยายามเพิ่มสัดส่วนธุรกรรมการจ่ายผ่านบัตรคอนแทคเลสเป็น 20% ของธุรกรรมทั้งหมด จากเดิมที่อยู่ราว 15% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาจากอดีตอยู่ที่สัดส่วน 0.1% ของธุรกรรมทั้งหมด

          

โดยมองว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนธุรกรรมจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนบัตรเดบิต-เครดิตที่หมดอายุของธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากบัตรรุ่นใหม่จะเป็นคอนแทคเลส รวมถึงการเปลี่ยนเครื่องรับบัตร (EDC) ที่รับชำระได้ 4 in 1 ได้ ทั้งนี้ ยอดการใช้ธุรกรรมการใช้ผ่านคอนแทคเลสเฉลี่ยกว่า 2 ล้านรายการต่อเดือน

          

สำหรับตลาดประเทศ ถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 และ 2 ของเอเชีย โดยมีจำนวนผู้ถือบัตรกว่า 70-80 ล้านใบ และมีประชากรที่เข้าถึงบัญชีธนาคารสัดส่วนค่อนข้างสูงถึง 83% ทำให้สัดส่วนการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สูงถึง 72% และใช้เงินสดเพียง 28% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการกระตุ้นการใช้ผ่านบริการรับโอนเงินรูปแบบใหม่ (พร้อมเพย์) และเข้าถึงอินเตอร์เน็ต 78% มีสมาร์ทโฟน 134% และใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก 79%

          



ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ